ผบ.ทบ. งัดมาตราการสูงสุดป้องชายแดน เพ่งเล็ง 7 จว. ต่างด้าวทะลัก

ผบ.ทบ. งัดมาตราการสูงสุดป้องชายแดน เพ่งเล็ง 7 จว. ต่างด้าวทะลัก

ผบ.ทบ.กำชับใช้มาตราการสูงสุดป้องกันแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองทุกช่องทาง ควบคู่กลไก กอ.รมน. ตรวจสอบพื้นที่ตอนใน

11 พ.ค.2564 พลโท สันติพงศ์  ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการที่กองกำลังชายแดนกองทัพบกได้เฝ้าตรวจพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายและป้องกันโรค โดยในห้วงที่ผ่านมา ปรากฎมีความพยายามลักลอบเข้าไทยโดยผิดกฎหมายไม่ผ่านการคัดกรองและกองกำลังชายแดนตรวจสกัดจับได้อย่างต่อเนื่อง

ซึ่ง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้กล่าวผ่านการประชุมด้วยระบบออนไลน์กับหน่วยทหารทั่วประเทศในวันนี้ (11 พ.ค.64) ชมเชยในผลการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังชายแดนในเรื่องดังกล่าว พร้อมกำชับให้เฝ้าระวัง ตรวจสอบและควบคุมชายแดนในทุกช่องทาง ใช้มาตรการสูงสุดในการดำเนินการ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบมาเพื่อหางานทำในไทย

โดยมีพื้นที่เพ่งเล็ง อาทิ ชายแดน จ.เชียงราย, จ.ตาก, จ.กาญจนบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.สระแก้ว, จ.สงขลา และ จ.ระนอง รวมถึงกำชับให้ใช้กลไกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในจังหวัดบูรณาการสกัดกั้นคัดกรองตามเส้นทางสู่พื้นที่ตอนใน อีกระดับหนึ่ง ด้วยมาตรการการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัดให้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย ให้ทุกส่วนร่วมมือกันเข้มงวดในมาตรการยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีแรงงานต่างด้าวเล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งนี้ในช่วง 7-10 พฤษภาคม 64  กกล.ป้องกันชายแดน ได้ตรวจพบและจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวม 198 คน แยกเป็น สัญชาติเมียนมา 155 คน, สัญชาติกัมพูชา 5 คน, สัญชาติอินโดนีเซีย 1 คน, สัญชาติลาว 16 คน, สัญชาติไทย  16 คน, ผู้นําพาชาวไทย 5 คน



การประชุมในวันนี้ ผบ.ทบ. ได้กล่าวถึงการดำรงการช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรค และช่วยลดภาระของประชาชน จำเป็นต้องกระจายการแจกจ่ายให้ครอบคลุมมากที่สุด ควบคู่ไปกับการช่วยดำรงชีวิตประจำวันในรูปแบบ Army delivery, การจัดรถปันสุขไปมอบอาหาร เครื่องอุปโภค-บริโภคในชุมชน  ล่าสุดคือ การนำรถครัวสนามไปปรุงอาหารมอบให้ประชาชนในชุมชนคลองเตย ช่วง 8-11 พ.ค. 64  ตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี ส่วนการอนุเคราะห์ฌาปนสถานของกองทัพบก เพื่อจัดพิธีศพให้กับผู้เสียชีวิตจาก  COVID-19 เพื่อบรรเทาทุกข์และลดภาระของครอบครัว ซึ่งขณะนี้ ได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 22 ราย ทั้งใน กทม. และ นครราชสีมา นั้น มอบให้กรมสวัสดิการทหารบกพิจารณาจัดเตรียมความพร้อมในการประกอบพิธีฌาปนกิจตามมาตรฐานสาธารณสุข และการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับจำนวนผู้เสียชีวิต