ระบาดโควิดฉุดอัตราการเกิดใน ‘สหรัฐ’ ต่ำสุดในรอบ 40 ปี

ระบาดโควิดฉุดอัตราการเกิดใน ‘สหรัฐ’ ต่ำสุดในรอบ 40 ปี

ซีดีซี เผย อัตราการเกิดใหม่ใน "สหรัฐ" ปี 2563 ต่ำสุดในรอบ 40 ปี ชี้ระบาดไวรัสทำให้ชะลอปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เลื่อนแต่งงาน มีเพศสัมพันธ์น้อยลง และลดการตั้งครรภ์

หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐ รายงานว่า อัตราการเกิดในสหรัฐ ในปี 2563 ลดลง 4% ซึ่งนับเป็นการลดลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ บ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลให้การเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มลดลงอยู่แล้วลดลงอีก 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ชี้ว่าอัตราการเกิดในปีก่อน ลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 6 โดยดิ่งต่ำสุดในช่วงท้ายปี ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกกลุ่มแรกที่คุณแม่ตั้งครรภ์ระหว่างเกิดโรคระบาดในสหรัฐ จะทยอยลืมตาดูโลก

รายงานระบุว่า ผู้หญิงอเมริกันมีลูกน้อยลงอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ โดยพวกเธออาจจะมีลูกในภายหลังหรือเลือกจะไม่มีเลย ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเริ่มทวีตัวยิ่งขึ้นจนส่งผลให้อัตราการเกิดลดลงในทุกเชื้อชาติ กลุ่มชาติพันธุ์ และเกือบทุกกลุ่มอายุของประเทศ

ฟิลิป เอ็น โคเฮน นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ เผยว่า ข้อมูลปี 2563 มีทารกถือกำเนิดในสหรัฐ ราว 3.6 ล้านคน ลดลงจากราว 3.75 ล้านคนในปี 2562 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2522 ทั้งยังเป็นตัวเลขการเกิดที่ลดลงมากที่สุดในรอบหนึ่งปีนับตั้งแต่ปี 2508 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ยุคเบบี้บูม (baby boom) สิ้นสุดลง

"แม้การระบาดใหญ่จะเร่งให้เกิดการลดลงเร็วขึ้น แต่มันไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากการชะลอตัวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายทศวรรษก่อนจะเกิดโรคระบาดแล้ว" รายงานระบุ โดยอัตราการเกิดก่อนโรคโควิด-19 อุบัติขึ้น ลดลงเหลืออยู่ที่ทารก 1.73 คนต่อผู้หญิง 1 คน หลังเคยพุ่งแตะสูงสุดที่ทารก 3.77 คนต่อผู้หญิง 1 คนในปี 2500 และลดลงในปี 2532 ก่อนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในทศวรรษต่อมา และดิ่งลงอย่างต่อเนื่องนับแต่นั้นมา

“สาเหตุบางส่วนที่อาจเร่งการลดลงในระยะยาว อาทิ ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ ค่าที่อยู่อาศัย ค่าดูแลเด็กและการศึกษา ตลอดจนนโยบายครอบครัว-การทำงานที่เละเทะของสหรัฐ อาจกระตุ้นให้แนวโน้มเลวร้ายลงในปี 2563 ” โคเฮนกล่าว

คณะผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าโรคระบาดใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงสังคมอเมริกันในหลายๆ ด้าน ทำให้แผนการมีลูกของบางคนหยุดชะงัก เนื่องด้วยความคิดที่ว่าลูกๆ ของตนอาจต้องเผชิญกับปัญหาตกงาน ศูนย์ดูแลเด็กและโรงเรียนปิดให้บริการ และปัญหาความโดดเดี่ยวทางสังคม

นอกจากนี้ นายโคเฮน กล่าวว่า การระบาดใหญ่ยังชะลอการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม นั่นหมายถึงมีเพศสัมพันธ์น้อยลง เช่นเดียวกับการมีแฟน การแต่งงาน และการตั้งครรภ์ มั่นใจว่ามันมีทั้งองค์ประกอบที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัวและเรายังไม่มีข้อมูลเพียงพอจะทราบแน่ชัดว่าความสมดุลระหว่างนั้นคืออะไร