คลังคาดมาตรการเยียวยาจะดึงจีดีพีปีนี้แตะ2.8%

คลังคาดมาตรการเยียวยาจะดึงจีดีพีปีนี้แตะ2.8%

คลังคาดมาตรการเยียวยาโควิดระลอกใหม่จะดึงจีดีพีปีนี้ให้ขยับจาก 2.3% เป็น 2.8% จากเม็ดเงินที่จะสะพัดเข้าระบบเศรษฐกิจราว 4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินจากโครงการ”ยิ่งใช้ยิ่งได้”2.68 แสนล้านบาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดการณ์ว่า มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19ระลอกใหม่ในล็อตใหม่ ซึ่งผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา จะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจราว 4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ จะเป็นเม็ดเงินที่เกิดการใช้จ่ายในโครงการ”ยิ่งใช้ยิ่งได้”2.68 แสนล้านบาท

มาตรการดังกล่าวจะประกอบด้วย 5 โครงการหลัก คือ การใส่เงินเข้าเพิ่มเติมเข้ามาตรการเราชนะ 6.7 หมื่นล้านบาท , ม.33 เรารักกัน 1.85 หมื่นล้านบาท ,คนละครึ่ง 9.3 หมื่นล้านบาท , การเติมเงินเข้าบัตรคนจน1.67 พันล้านบาท และ ยิ่งใช้ยิ่งได้ 2.8 หมื่นล้านบาท

“ในส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้นั้น จะเป็นโครงการที่เราต้องการดึงการใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีรายได้สูง โดยผู้ร่วมโครงการจะต้องใช้จ่ายเงิน 6 หมื่นบาท ถึงจะได้รับเงินคืน 7 พันบาท ซึ่งส่วนนี้ เราคาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัด 2.4 แสนล้านบาท เมื่อรวมกับวอยเชอร์ที่รัฐจะใส่เข้าไป 2.8 หมื่นล้านบาท ทำให้เงินจะสะพัดในระบบถึง 2.68 แสนล้านบาท”

ผอ.สศค.กล่าวด้วยว่า ด้วยเม็ดเงินที่จะถูกอัดเข้าระบบเศรษฐกิจจำนวนประมาณ 4 แสนล้านบาทดังกล่าว จะทำให้จีดีพีสามารถขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1% แต่ในจำนวนนี้ เราได้คำนวณในการประมาณการจีดีพีไว้แล้ว 1 แสนล้านบาท ซึ่งคาดการณ์จีดีพีจะขยายตัวได้ประมาณ 2.3% ดังนั้น ส่วนที่เหลือที่จะใส่เพิ่มเข้าไปอีก 3 แสนล้านบาท ก็คาดว่า จะทำให้จีดีพีขยายตัวได้สูงขึ้นหรือขึ้นไปแตะระดับ 2.8% ได้ อย่างไรก็ดี เราจะปรับประมาณอีกครั้งในเดือนก.ค.นี้