กต. ชี้ ทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด 'สหรัฐ' ได้ไม่คุ้มเสีย เสี่ยง ตม.

กต. ชี้ ทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด 'สหรัฐ' ได้ไม่คุ้มเสีย เสี่ยง ตม.

"โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ" เผย บริษัททัวร์ใช้ช่องบางรัฐใน "สหรัฐ" เปิดให้ต่างชาติเข้าเมืองถูกกฎหมาย หรือนักท่องเที่ยวโชว์พาสปอร์ต "ฉีดวัคซีนโควิดฟรี" แต่ได้ไม่คุ้มเสีย เสี่ยงอาจโดน ตม.สหรัฐปฏิเสธเข้าเมือง

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีบริษัททัวร์เชิญชวนคนไทยจองทัวร์เดินทางไปสหรัฐ เพื่อฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ว่า  ปัจจุบัน ประชากรที่อาศัยอยู่หรือเดินทางเข้ามายังสหรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีอายุ 16 ปีขึ้นไป สามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพลเมืองสหรัฐ และไม่มีค่าใช้จ่าย (ยกเว้นค่าดำเนินการบางรายการ) 

“แต่ละรัฐอาจมีกฎเกณฑ์ ข้อกำหนด และขั้นตอนในการแจกจ่ายวัคซีนที่แตกต่างกัน อาทิ ต้องเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่/อาศัยอยู่หรือทำงานอยู่ในรัฐนั้นๆ แต่ในบางรัฐ นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงเพื่อขอรับการฉีดวัคซีนได้” นายธานี ระบุ 

ส่วนที่ปรากฏข่าวว่า ผู้เดินทางจากละตินอเมริกามายังสหรัฐ เพื่อฉีดวัคซีน จึงเป็นไปได้ว่า บริษัทนำเที่ยวบางแห่งในประเทศไทยอาจเห็นโอกาสจากช่องว่างดังกล่าว เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ที่ประสงค์จะได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วให้เดินทางไปยังสหรัฐ โดยเฉพาะในรัฐ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อกำหนดห้ามผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐ เป็นการชั่วคราวรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

162013119925

นายธานี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ เริ่มมีผู้บริหารและหน่วยงานของหลายรัฐ ได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันการจัดการท่องเที่ยวเพื่อฉีดวัคซีน (vaccine tourism) อาทิ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และหน่วยงานด้านสาธารณสุขรัฐแอละบามา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะจัดให้แก่ผู้ที่มีถิ่นพำนักในรัฐเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แต่ละรัฐสามารถปรับ เปลี่ยนมาตรการการแจกจ่ายวัคซีนตามที่เห็นเหมาะสมได้โดยรวดเร็ว

ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต และ สถานกงสุลใหญ่ของไทยในสหรัฐ ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธให้เข้าสหรัฐ ของคนไทยอยู่เป็นระยะ แม้ว่าจะได้รับการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวมาแล้วก็ตาม โดยเมื่อถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ก็จำเป็นต้องดำเนินการและเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ASQ อีกทั้งต้องขอรับ COE จาก สอท. / สกญ. ซึ่งหลายครั้งอาจทำให้ต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินเป็นเวลานาน 

“ผู้เข้าร่วมโปรแกรมเดินทางมาท่องเที่ยวและรับการฉีดวัคซีนดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงิน โดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รวมทั้งอาจถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าสหรัฐ โดย ตม. สหรัฐ” นายธานี กล่าวย้ำ

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสหรัฐ ได้รับอนุมัติการใช้งานแบบฉุกเฉิน (EUA) เท่านั้น ดังนั้น หากผู้ที่ได้รับวัคซีนมีอาการข้างเคียงหรือการแพ้รุนแรง ทางบริษัทฯ ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ และหากผู้เดินทางไม่มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูง

กระทรวงการต่างประเทศจึงขอให้ประชาชนที่ประสงค์จะซื้อรายการท่องเที่ยวไปต่างประเทศเพื่อการฉีดวัคซีน ติดต่อสอบถามเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนตัดสินใจ โดยสามารถสอบถามได้ตามช่องทางต่อไปนี้

o ประเทศไทย : กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ hotline 02-572-8442 และ app “Thai Consular”

o สหรัฐ : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน

+1 202-684-8493

(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-12.30 น. และเวลา 14.00-17.00 น. - ยกเว้นวันหยุดราชการ)

- สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส

+1 323-962-9574

(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น. - ยกเว้นวันหยุดราชการ)

- สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก

+1 312-664-3129

(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. และเวลา 13.00-17.00 น. - ยกเว้นวันหยุดราชการ)

- สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก

+1 212-754-1770 ต่อ 304,311,313

(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-12.00 น. และเวลา 13.00-15.30 น. - ยกเว้นวันหยุดราชการ)