ส่อวุ่น !! 'สถาบันฯปทุมวัน' ร้องอว.ขอให้ตรวจสอบแต่งตั้งผู้บริหารซ้อน

ส่อวุ่น !! 'สถาบันฯปทุมวัน' ร้องอว.ขอให้ตรวจสอบแต่งตั้งผู้บริหารซ้อน

รักษาการแทนอธิการบดี "สถาบันฯปทุมวัน" ยื่นหนังสือต่ออว.ขอความช่วยเหลือแก้ปัญหาภายใน ระบุมีการ "แต่งตั้งผู้บริหาร" ซ้อนอีกกลุ่มไม่เป็นธรรม สร้างความสับสนในการปฎิบัติงานของบุคลากร พร้อมขอให้เร่งรัดช่วยตรวจสอบ

รศ.ดร.ประยูร สุรินทร์ รักษาราชการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ยื่นหนังสือต่อ ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว. เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาการแทรกแซงการบริหารงานและบิดเบือนสายการบังคับบัญชาให้บุคลากรภายในสับสนและอึดอัดพร้อมเรียกร้องขอให้เร่งรัดกระบวนการตรวจสอบและวินิจฉัยการประชุม "สภาสถาบันเทคโนโลยีปทุม" วันเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน พ.ศ.2564 ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

  • ยื่นหนังสือต่ออว.ร้องขอเร่งรัดให้ช่วยตรวจสอบ

เนื่องจาก ก่อนหน้านี้พล.ต.อ.เหมราช ธารีไทย นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ประกอบกับอุปนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานต้นสังกัด จึงส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการจัดประชุมสภาสถาบันได้

ต่อมา ทาง "สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน"ได้ศึกษาพระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พ.ศ. 2547 และข้อบังคับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ว่าด้วย การประชุมสภาสถาบัน พ.ศ. 2558 แล้ว จึงได้ทำเรื่องหารือไปยังกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตรกรรม "อว." ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของ "สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน" แต่คณะกรรมการสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันกลุ่มหนึ่งทำหนังสือขอให้เปิดประชุมนัดพิเศษ

  • จัดประชุม "แต่งตั้งผู้บริหาร"อีกชุดซ้อน

แม้เลขานุการสภาสถาบันฯ จะชี้แจงว่าอยู่ระหว่างหารือและรอข้อแนะนำตอบกลับจากอว. เพื่อจะได้ดำเนินการจัดประชุมสภาฯให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่คณะกรรมการสภากลุ่มดังกล่าวก็ยังพยายามดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดการประชุมกันเองเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีความเห็นสอดคล้องกันขึ้น โดยไม่มีหนังสือเชิญประชุมกรรมการสภาสถาบันฯ ท่านอื่นๆ

"สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน"จึงได้ทำหนังสือแจ้งการจัดการประชุมของคณะกรรมการสภากลุ่มดังกล่าว ไปยัง อว.เพื่อขอความเห็นว่า เป็นการประชุมที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ มติที่ประชุมมีผลบังคับใช้หรือไม่ ?  โดยมีว่าที่ร้อยตรีพงษ์เพ็ชร์ พิทยาพละ กรรมการสภาสถาบันฯ ได้ทำหนังสือแจ้งให้เลขานุการสภาสถาบันฯ ดำเนินการจัดประชุมสภาสถาบัน โดยอ้างว่า คณะกรรมการสภาสถาบันกลุ่มที่จัดประชุมก่อนหน้านี้ มีมติมอบหมายให้ตนเป็นประธานในที่ประชุมไปจนกว่าจะมีการ สรรหานายกสภาสถาบันหรือแต่งตั้งอุปนายกสภาสถาบันฯ

ดังนั้น ว่าที่ร้อยตรีพงษ์เพ็ชร์ พิทยาพละ กรรมการสภาสถาบันฯ และพวกได้ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของเลขานุการสภาสถาบันฯ และสำนักงานเลขานุการสภาสถาบันฯ ตามข้อบังคับ ด้วยการจัดทำหนังสือเชิญประชุม และยังดำเนินการจัดวาระการประชุมกันเอง จนกระทั่งมีมติที่ประชุมเมื่อวันพุธที่ 28 เม.ย.2564 เพื่อแต่งตั้ง รศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนอธิการบดี

 

 

  • "แต่งตั้งผู้บริหาร" ไม่เป็นธรรม สร้างความสับสนแก่บุคลากร

โดยอ้างคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดซึ่งเป็นคำสั่งกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้รับคำฟ้อง ว่าเป็นคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง (คำร้องที่ คบ. 74/2563 ค าสั่งที่ คบ. 292/2563) มีกลุ่มบุคคลทำการปลอมแปลงเอกสารทางราชการด้วยการแอบอ้างหน่วยงาน เลขหนังสือ และเลขคำสั่งสภาสถาบันฯ โดยมีว่าที่ร้อยตรีพงษ์เพ็ชร์ พิทยาพละ ลงนามในคำสั่งสภาสถาบันฯ โดยอ้างว่าตนดำรงตำแหน่งอุปนายกสภาสถาบัน ปฏิบัติหน้าที่แทน

นายกสภา "สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน" ซึ่งไม่มีเลขคำสั่งดังแอบอ้างอยู่ในระบบเอกสารของสำนักงานเลขานุการสภาสถาบัน เพื่อแต่งตั้งบุคคล ให้ดำรงตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนหลายตำแหน่ง และ รศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ กับ รศ.ดร.สันติ หวังนิพพานโต ได้เผยแพร่เอกสารนั้นเข้าสู่กลุ่มไลน์ของบุคลากรและผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันซึ่งเป็นช่องทางในการสั่งงานทางราชการในช่วงที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันมีประกาศปิดทำการและให้บุคคลากรทุกหน่วยงานปฏิบัติการจากที่บ้าน (WFH) เพื่อลดโอกาสเสี่ยงอันตรายต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) จากการเดินทางและปฏิบัติงานร่วมกัน ส่งผลให้เกิดความสับสนในสายการบังคับบัญชาและการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลากรในสถาบันฯ

รศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ เชิญประชุมรองอธิการบดี และหัวหน้าหน่วยงานหลายระดับเพื่อรับฟังคำ สั่งการ ส่งผลให้สายการบังคับบัญชาบิดเบือนและบุคลากรเกิดความสับสนจงใจก้าวก่ายและแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของรักษาราชการแทนอธิการบดี สร้างปัญหาภายในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันอย่างมาก  ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการปฎิบัติงานของตนและการปฎิบัติหน้าที่ของบุคลากร จึงได้มายื่นหนังสือต่ออว.เพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว” รศ.ประยูร กล่าว