สหรัฐ‘คิดหนัก’ความต้องการฉีดวัคซีนลด

สหรัฐ‘คิดหนัก’ความต้องการฉีดวัคซีนลด

ทางการสหรัฐ‘คิดหนัก’ความต้องการฉีดวัคซีนลด โดยคนที่กระตือรือร้นอยากฉีด ส่วนใหญ่ก็ถลกแขนเสื้อฉีดกันไปเรียบร้อยแล้ว คนที่เหลือจึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลสหรัฐ

ขณะที่การฉีดวัคซีนในหลายประเทศ (ที่เริ่มฉีดแล้ว) ยังไปไม่ถึงไหน แต่ศูนย์ฉีดวัคซีนใหญ่ทั่วสหรัฐกำลังปิดตัวลงเนื่องจากความต้องการฉีดลดลงอย่างมาก ทำให้ทางการต้องแสวงหาวิธีการใหม่ๆ เข้าถึงผู้คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างข้อมูลทางการว่า สหรัฐฉีดวัคซีนทั่วประเทศได้สูงสุดวันที่ 13 เม.ย. วันเดียวฉีดได้ 3.4 ล้านคน และแม้ผู้ใหญ่ 55% ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม แต่ยังอีกนานกว่าจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่

คนที่กระตือรือร้นอยากฉีด ส่วนใหญ่ก็ถลกแขนเสื้อฉีดกันไปเรียบร้อยแล้ว คนที่เหลือจึงเป็นความท้าทายของทางการ อย่างที่รัฐเท็กซัส ซึ่งก็เหมือนกับหลายพื้นที่ของประเทศ การฉีดวัคซีนลดลงทุกวัน ศูนย์ฉีดใหญ่ของรัฐบาลกลางในเมืองอาร์ลิงตัน ตั้งอยู่ระหว่างดัลลัสและฟอร์ทเวิร์ธต้องปิดตัวลงเมื่อกลางเดือน เม.ย. เพราะคนมาฉีดน้อยเกินไป

อีกสองศูนย์ที่สนามเอ็นจีอาร์ในเมืองฮิวส์ตันและแฟร์ปาร์คเมืองดัลลัส ปิดระบบนัดตอนนี้ใครอยากฉีดก็เดินเข้ามาฉีดได้เลย สนามเอ็นจีอาร์พยายามทำกระบวนการฉีดให้ง่ายขึ้น จากเดิมปิด 17.00 น. ก็ขยายไปถึง 21.00 น. และเปิดให้ฉีดแบบไดรฟ์ทรู

ทำกันขนาดนี้สนามเอ็นจีอาร์ก็ฉีดได้แค่ครึี่งหนึี่งของศักยภาพที่ทำได้

“เราฉีดได้ถึงราว 6,000 คน เคยฉีดได้มากถึง 7,000 คนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ลดลงเหลือแค่ 2,5000 คนโดยเฉลี่ย ลดลงมากเลย” มาร์ธา มาร์เกซ โฆษกศูนย์บริการสาธารณสุขแฮร์ริสเคาน์ตีกล่าว

ทางการกำลังพิจารณาวิธีเจาะจงเป้าหมายมากขึ้น เพื่อเข้าถึงคนที่อยู่ห่างไกลหรือมาศูนย์ฉีดวัคซีนได้ยาก โดยใช้ศูนย์ฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ 5 ศูนย์เข้าถึงพื้นที่ห่างไกลที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด

แอชลี ดอว์สัน เจ้าหน้าที่ศูนย์ฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เผยว่า สัปดาห์หน้าจะเพิ่มเป็น 10 ศูนย์ เธอและทีมงานตั้งศูนย์ฉีดเคลื่อนที่ขึ้นที่ห้องสมุดสาธารณะในพาซาดีนา เขตประชาชนเชื้อสายละตินชานเมืองฮิวส์ตัน ผู้คนมาฉีดกันไม่มาก ภายในเที่ยงวันมาฉีดวัคซีนแค่ 27 คน

หนึี่งในนั้นคือ โฮเซ เฮอร์เรรา วัย 55 ปี ที่ไม่ได้มาฉีดก่อนหน้านี้เพราะศูนย์ฉีดตั้งอยู่ไกลมาก และเขายังกังวลเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีน

ตอนนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านยาหลายสิบแห่งทั่วเมืองระดมโฆษณาชวนประชาชนไปฉีดวัคซีน แต่เฮอร์เรราและมาเรียภรรยา ไม่ได้เชื่อโฆษณาเหล่านี้ เขามาฉีดเพราะคำชวนของลูกสาวที่ทำงานอยู่ห้องสมุดพาซาดีนา

เมื่อถามถึงกลุ่มต้านวัคซีน ซาอัด โอเมอร์ นักวัคซีนวิทยา ผู้อำนวยการสถาบันเยลเพื่อสุขภาพโลกกล่าวว่า คนกลุ่มนี้จริงๆ แล้วเล็กมาก การยอมรับวัคซีนมีมากขึ้น ส่วนคนที่ลังเลเรื่องการฉีดวัคซีนถ้าเจออุปสรรคเข้าก็ไม่อยากไปฉีด

“วิธีเดียวในการรับมือคือเพิ่มความต้องการ อีกวิธีคือทำให้การฉีดวัคซีนง่าย เข้าถึงง่าย เพื่อให้คนที่ลังเลรู้สึกว่า โอเค ไปฉีดก็ได้”

อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่ไว้ใจวัคซีนก็ยังมีอยู่ ผลการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ของไกเซอร์แฟมิลีฟาวเดชัน พบว่า ในหมู่ผู้ลงคะแนนที่เลือกพรรครีพับลิกัน 29% กล่าวว่า จะไม่ฉีดวัคซีนเด็ดขาด เทียบกับ 5% ของคนที่เลือกเดโมแครต และ 9% ที่เลือกผู้สมัครอิสระ

คนขาวนิกายอีแวนเจลิค เป็นอีกกลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนมากขึ้น วิเวก เมอร์ธี ศัลยแพทย์สหรัฐ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (30 เม.ย.) ให้คำมั่นว่าจะทำโครงการริเริ่มใหม่ทำให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนกับหมอประจำของตนเอง ที่ผลวิจัยระบุว่า เป็นคนที่ประชาชนไว้ใจมากที่สุด

โอเมอร์แนะว่า ควรมีการถอดบทเรียนแพทย์ผิวดำและองค์กรดูแลสุขภาพที่ช่วยให้ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเอาชนะความไม่ไว้วางใจวัคซีนได้

“ถ้าจะมีใครสักคนวิพากษ์วิจารณ์ก็ควรเป็นคนขาวนิกายอีแวนเจลิค ไม่ใช่คนภายนอก ผู้นำกลุ่มมีสิทธิที่จะทำเช่นนั้น” นักวัคซีนวิทยาให้ความเห็นถึงความไม่เชื่อมั่นต่อวัคซีน