กำไรบจ.โดยรวมออกมาดี ขณะที่เฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดการผ่อนคลาย

กำไรบจ.โดยรวมออกมาดี ขณะที่เฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดการผ่อนคลาย

ผลประกอบการบจ.และ GDP สหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยบวก

การรายงานผลประกอบการบจ.ในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังออกมาแข็งแกร่งและดีกว่าคาด ขณะที่การรายงาน GDP ไตรมาส 1/64 ที่ 6.4% อยู่ในช่วงที่ตลาดคาดการณ์ 6.1-6.5% และขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ ไตรมาส 3/46 ขณะที่ภาพรวมทั้งปีคาดขยายตัวมากกว่า 7% ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการปรับขึ้นของหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นโลก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเกิดใหม่และเอเชีย อาจผันผวนระยะสั้นจากความกังวลตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีจะเร่งการเกิดขึ้นของเฟ้อ อย่างไรก็ตาม หุ้นไทยอาจไม่ได้รับผลเชิงลบจากสัดส่วนของหุ้นในตลาดที่มีสินค้าโภคภัณฑ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยเอเชีย

ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดในพื้นที่สีแดง แม้จะไม่ได้ออกคำสั่งปิดเมือง (ล็อคดาวน์) อย่างเด็ดขาด แต่ขอความร่วมมือไม่ออกนอกพื้นที่/ การงดนั่งทานอาหารในร้านตั้งแต่ 1 พ.ค. / ขอความร่วมมือเอกชนให้พนักงานทำงานที่บ้าน (WFH) ซึ่งแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มจะผ่านจุดสูงสุดในรอบไปแล้ว แต่เรามองการใช้มาตรการเข้มข้นดังกล่าวเพื่อกดการเพิ่มของผู้ติดเชื้อ และซื้อเวลาให้ระบบสาธารณสุขได้ระบายคนไข้หนักในระบบออก เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต เรามองตลาดรับรู้ปัจจัยเสี่ยงจากมาตรการที่เข้มข้นขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศที่มีแนวโน้มจะล่าช้าไปพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตามในเชิงกลยุทธ์เรายังเน้นเลือกหุ้นในกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจากกำลังซื้อต่างประเทศ ซึ่จะไม่กระทบกับสถานการณ์ระบาดและการควบคุมโรคในประเทศ อาทิ ปิโตรเคมี ส่งออก (อาหารและเกษตร) เป็นต้น

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART, EASTW, WHAUP, PTG 6) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 7) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP

ภาพรวมกลยุทธ์ ผันผวนในเชิงบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/64 โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ออกมาดีกว่าคาดต่อเนื่อง บวกต่อการปรับเพิ่มประมาณการและราคาเหมาะสม เน้นเลือกหุ้นผสมระหว่างฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง กองรีทส์ที่มีการถือครองต่ำ รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร IRPC*, TVO*, TWPC*, LH*

แนวรับ 1,580 / แนวต้าน : 1,600 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

PMI จีน เม.ย. – ภาคการผลิต 51.1 จาก มี.ค. 51.9 / ภาคบริการ 54.9 ลดลงจาก มี.ค.ที่ 56.3

สศค.หั่นเป้า GDP ปี 64 ของไทยเหลือโต 2.3%. สศค.ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 64 ลงเหลือโต 2.3% จากคาดการณ์เดิมที่คาดโต 2.8% จากประมาณการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดลดเหลือ 2 ล้านราย หลังการเปิดประเทศมีแนวโน้มล่าช้าออกไป ขณะที่ตัวเลขการส่งออกคาดฟื้นได้ราว 11% และนำเข้าโต 18%

ศบค. เคาะมาตรการ 6 จังหวัดสีแดงเข้ม. ยกระดับพื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด) เป็นสีแดงเข้ม (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ชลบุรี, เชียงใหม่, ปทุมธานี และสมุทรปราการ

SCC. ย้ำรายได้ปี 64 โต 5-10% รับฐานธุรกิจขยายตัว-กำลังผลิตใหม่หนุน เล็งนำบริษัทย่อย เอสซีจี เคมิคอลล์ เข้าตลาดภายในปี 65

 

ประเด็นติดตาม: - 30 เม.ย.: Chinese Manufacturing PMI เดือน เม.ย., TH Economic Review

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)