จับตาประชุมเฟด

ประกอบกับหุ้นในกลุ่มขนส่งที่ปรับตัวลง เช่น AOT กดดันดัชนี โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,559.23 จุด -0.30 จุด -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 97,522 ลบ. ต่างชาติ +52.22 ลบ. TFEX -667 สัญญา ตราสารหนี้ +2,433.88 ลบ.

ปัจจัยบวก

+/- ดัชนี ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ +0.01% บวกเล็กน้อย นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย รวมทั้งจับตาการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 62.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปค และโอเปคพลัส จัดการประชุมเร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน และมีมติคงนโยบายการผลิตน้ำมันเท่าเดิม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของรัฐบาลสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยวันนี้
+ หนังสือพิมพ์เดอะ เทเลกราฟรายงานว่า บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ของสหรัฐกำลังทดลองยาต้านไวรัสโควิด-19 ชนิดเม็ด โดยคาดว่าการทดสอบความปลอดภัยของยาดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้ และคาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ภายในปีนี้
+จีนรายงานว่ากำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้นในเดือนมี.ค. โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและราคาหน้าประตูโรงงานที่เพิ่มขึ้น
+ ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19
+ ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์มี.ค.โต 16.38% มาที่ 104,506 คัน สูงสุดรอบ 24 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 คาดการณ์ 3 เดือนยังเป็นบวก

ปัจจัยลบ

-จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ยังทรงตัวที่ระดับสูงราว 2 พันรายและจำนวนผู้เสียชีวิตยังพุ่งขึ้น ขณะที่กกร.เสนอล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง 15 วันและเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ
- ผลสำรวจความเห็นเปิดเผยว่า ประชาชนชาวอเมริกันน้อยกว่าครึ่งเชื่อว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) มีความปลอดภัย
- สื่อสหรัฐรายงานว่า ชาวอเมริกันกว่า 5 ล้านคนหรือเกือบ 8% ของผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนด
-ครม. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลปัญหาราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงเวลานี้ เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุนการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีเหล็กเป็นวัตถุดิบหลัก กดดันราคาหุ้นกลุ่มเหล็ก

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเช้าวันพรุ่งนี้ ประกอบกับติดตามการประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,570 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ประชาชนไปตรวจโควิด-19 จำนวนมาก BCH VIBHA RJH PR9
• หุ้นได้ประโยชน์จาก WFH ได้แก่ COM7 SYNEX SIS HMPRO ILM ITEL INSET NETBAY
• หลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดสถานที่ในหลายจังหวัด SPA MAJOR IMPA

หุ้นรายงานพิเศษ

          SPALI กำไร 1Q64 อาจแผ่วแต่ทั้งปียังเติบโตดี

•ยอดขาย presale ในช่วง 1Q64 ทำได้ดี 7,229 ล้านบาท +27%YoY เป็นยอดขายโครงการแนวราบในกทม.เป็นหลัก โดยจะเปิดขายโครงการคอนโดฯตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป ส่วนยอดโอนในช่วง 1Q64 ไม่สูงนักเนื่องจากปลายปี 63 เร่งโอนไปแล้วทำให้การโอนในเดือนมกราคมมีเหลือน้อยมาก ทั้งนี้มีส่วนแบ่งรายได้จากโครงการร่วมทุนที่ออสเตรเลียเป็นทาวน์โฮมอพาร์ทเม้นท์ริมทะเลโอนพร้อมกัน มูลค่าใกล้เคียงของทั้งปี 63

•ผู้บริหารยืนเป้ารายได้ปี 64 ที่ 28,000 ล้านบาท ปลายงวด 1Q64 มี backlog 17,153 ล้านบาท คิดเป็น 61% ของเป้า โดยมีแผนโอนคอนโด 3 โครงการในช่วง 2H64 ได้แก่ ศุภาลัยพรีเมียร์-เจริญนคร มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท จองแล้ว 100% ศุภาลัยริว่าแกรนด์ มูลค่า 6,800 ล้านบาทจองแล้ว 76% และศุภาลัยวีแรนด้า-ภาษีเจริญ มูลค่า 4,500 ล้านบาท จองแล้ว 89% การโอนคอนโดฯของลูกค้าชาวต่างชาติน่าจะเริ่มได้เดือนพ.ค.

• ความเห็น แม้แนวโน้มกำไร 1Q64 จะแผ่วแต่ภาพรวมทั้งปียังดี Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 เติบโตราว 34% เป็น 5,700 ล้านบาท ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 9.76 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 26.45 เท่า ขณะที่ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 5.4% น่าสนใจเหมาะถือยาวรับเงินปันผล

หุ้นมีข่าว

    ASW - IPO = 9.82 บาท (Trailing PE = 8.54x) Consensus 11.2-11.4 บาท

•บริษัท แอสเซทไวส์ จ้ากัด (มหาชน) เป็นกลุ่มบริษัทที่ประกอบด้วย ASW และบริษัทย่อยทั้งหมด 15 บริษัท แบ่งเป็น 1) ธุรกิจหลัก คือ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทั้งโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ จำนวน 12 บริษัท และ 2) บริษัทย่อยอีก 3 บริษัท ประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เช่น ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและธุรกิจรับฝากขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์

•รายได้รวมช่วงปี 2561-63 เท่ากับ 4,358.7 ลบ. 2,630.7 ลบ. และ 4,228.1 ลบ. ตามลำดับ CAGR เฉลี่ย -1.5% ต่อปี ส่วน %GPM เท่ากับ 30.7% 39.3% และ 44.2% ตามลำดับ สะท้อนตามต้นทุนโครงการใหม่ๆที่สามารถควบคุมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิเท่ากับ 556.5 ลบ. 297.1 ลบ. และ 870.8 ลบ. ตามลำดับ CAGR เฉลี่ย +25% ต่อปี

•ราคา IPO = 9.82 บาท (Trailing PE = 8.54x) จำนวน IPO = 206 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลราว 2.02 พันลบ. มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาโครงการในปัจจุบันและอนาคต 2) ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และ 3) เงินทุนหมุนเวียน

(+) THG (Bloomberg Consensus 23.50 บาท) สนองรัฐแก้ปัญหาโควิด-19 จับมือโรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท (อโศก) และโรงแรมไอบิส กรุงเทพฯ อิมแพ็ค ลุยปรับห้องพักเป็นหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) บริการผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1,200 เตียง คาดสร้างรายได้ 150 ล้านบาท/เดือน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) XO (ราคาเหมาะสม 15 บาท) ส่งสัญญาณยอดขายไตรมาส 2/64 แรงดีไม่มีตก โควิด-19 ระลอกใหม่ หนุนออเดอร์ต่างประเทศไหลเข้าเพียบ ชี้กำลังผลิต 60% เพียงพอต่อความต้องการ มั่นใจผลงานวิ่งชนเป้า โต 10% ฟากโบรกคาดรายได้ไตรมาส 1/64 ทำนิวไฮ เคาะมาร์จิ้น 41-42% พร้อมอัพกำไรปี 64-65 ที่ 344 และ 375 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TEAMG (Bloomberg Consensus 2.76 บาท) จับตาโควิดรอบใหม่เพื่อประเมินผลกระทบ ล่าสุดยังคงเป้าหมายโตกว่า 10% พร้อมตั้งเป้าโกยงานใหม่ 1,500-1,800 ล้านบาท เติม Backlog แตะ 4,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ 

28 เม.ย.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค จับตาการทบทวนประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2564 เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.8% หรือไม่

สัปดาห์ที่ 5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

30 เม.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

27-28 เม.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประชุมนโยบายการเงิน แถลงมติอัตราดอกเบี้ย(เช้าวันที่ 29 เม.ย.)

28 เม.ย. สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมัน

            อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.

            สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP 1Q64 (ประมาณการเบื้องต้น) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมี.ค.

29 เม.ย. อียูเปิดเผย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP 1Q64 (ประมาณการเบื้องต้น) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมี.ค.

30 เม.ย. จีนเปิดเผยดัชนีผู้จิดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนเม.ย. อียูเปิดเผย GDP 1Q64 (ประมาณการเบื้องต้น) และอัตราว่างงานเดือนมี.ค. สหรัฐเปิดเผยรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.

มี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.