19 สถานที่เสี่ยงแพร่โควิด19ในกทม.

19 สถานที่เสี่ยงแพร่โควิด19ในกทม.

ติดโควิด19รายใหม่2,438 ราย เสียชีวิตเพิ่ม11 ราย ยังรักษา 2.4 หมื่นราย อาการหนักกว่า 500 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 138 ราย รอบ3อัตราป่วยตายแซงรอบ 2 กทม.มี 19 สถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อทำยอดพุ่ง

เวลา 11.30 น. วันที่ 25 เม.ย. 2564 ในแถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวัน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,438 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,433 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย หายป่วย 547 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 11 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 55,640 ราย หายป่วยสะสม 31,113 ราย และเสียชีวิตสะสม 140 ราย กำลังรักษาตัว 24,207 ราย อยู่ใน รพ. 19,274 ราย และ รพ.สนาม 4,933 ราย มีอาการหนัก 507 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 138 ราย เฉพาะระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ติดเชื้อสะสม 26,597 ราย เสียชีวิตสะสม 46 ราย

ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 11 ราย ได้แก่ รายที่ 130 เป็นชายไทยอายุ 27 ปี กทม. มีโรคเบาหวานและโรคอ้วน ประวัติวันที่ 12 เม.ย. มีไอ หายใจำลบาก วันที่ 14 เม.ย. พบเชื้อ วันที่ 21 เม.ย. เสียชีวิต สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน

รายที่ 131 หญิงไทยอายุ 34 ปี ปทุมธานี มีไซนัสอักเสบและโรคอ้วน วันที่ 13 เม.ย.มีไข้ ไอแห้งๆ ปนเลือด วันที่ 16 เม.ย.พบเชื้อ วันที่ 23 เม.ย.เสียชีวิต สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า

รายที่ 132 ชายไทย อายุ 69 ปี ปทุมธานี มีความดันโลหิตสูง เกาต์ วันที่ 8 เม.ย. มีไอ ปวดศีรษะ หายใจลำบาก วันที่ 13 เม.ย. พบเชื้อ และวันที่ 22 เม.ย. เสียชีวิต ประวัติเดินทางไปสถานที่แออัด

รายที่ 133 หญิงไทยอายุ 62 ปี สุโขทัย มีความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด วันที่ 16 เม.ย. มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ วันที่ 20 เม.ย.พบเชื้อ วันที่ 22 เม.ย. เสียชีวิต ปนะวัติเดินทางไปสถานที่มีผู้ป่วยยืนยัน

รายที่ 134 ชายไทยอายุ 70 ปี ประจวบคีรีขันธ์ มีเบาหวานย ไตวายเรื้อรัง และความดันโลหิตสูง วันที่ 17 เม.ย. มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ วันที่ 19 เม.ย. พบเชื้อ วันที่ 23 เม.ย. เสียชีวิต โดยสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า

รายที่ 135 ชายไทยอายุ 45 ปี นครพนม มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด โรคอ้วน วันที่ 13 เม.ย. มีไอ ถ่ายเหลว แน่นท้อง วันที่ 17 เม.ย. พบเชื้อ วันที่ 23 เม.ย. เสียชีวิต สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า

รายที่ 136 ชายไทยอายุ 35 ปี นครราชสีมา มีโรคอ้วน วันที่ 13 เม.ย. มีไข้ หนาวสั่น วันที่ 15 เม.ย. พบเชื้อ วันที่ 22 เม.ย. เสียชีวิต ประวัติเดินทางไปสถานที่แออัด

รายที่ 137 ชายไทยอายุ 34 ปี กทม. มีโรคเบาหวาน และโรคอ้วน วันที่ 13 เม.ย. มีอาการปวดเมื่อย วันที่ 21 เม.ย. พบเชื้อ และวันที่ 23 เม.ย. เสียชีวิต สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า

รายที่ 138 ชายไทยอายุ 36 ปี กทม. ไม่พบโรคประจำตัว วันที่ 12 เม.ย. มีไข้ วันที่ 18 เม.ย. พบเชื้อ และวันที่ 23 เม.ย. เสียชีวิต เดินทางไปสถานที่แออัด

รายที่ 139 ชายไทยอายุ 35 ปี กทม. มีโรคอ้วน วันที่ 11 เม.ย. มีไข้ ไอ เจ็บคอ วันที่ 15 เม.ย. พบเชื้อ และวันที่ 23 เม.ย. เสียชีวิต ประวัติเดินทางไปสถานที่แออัด

รายที่ 140 หญิงไทยอายุ 32 ปี กทม. มีตั้งครรภ์ 25 สัปดาห์ วันที่ 8 เม.ย. มีไข้ ไอ เจ็บคอ วันที่ 15 เม.ย. พบเชื้อ และวันที่ 23 เม.ย. เสียชีวิต ประวัติเดินทางไปสถานที่แออัด

อัตราป่วยตายสูงกว่ารอบก่อน

"การเสียชีวิตระลอกแรก 60 ราย จากผู้ป่วย 4,237 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตาย 1.42% ระลอก2เสียชีวิต 34 ราย จาก 24,626 ราย คิดเป็น 0.14% ส่วนระลอกล่าสุด เสียชีวิต 46 ราย จาก 26,597 ราย คิดเป็น 0.17%" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

161933301687

 

10 จ.ติดเชื้อสะสมสูงสุด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า 10 จังหวัดที่มีการติดเชื้อสะสมสูงสุดในระลอกนี้ คือ กทม. 8,175 ราย เชียงใหม่ 3,148 ราย ชลบุรี 1,859 ราย นนทบุรี 1,151 ราย สมุทรปราการ 1,066 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 984 ราย สมุทรสาคร 653 ราย ปทุมธานี 525 ราย นราธิวาส 477 ราย และสงขลา 450 ราย

19สถานที่เสี่ยงแพร่โควิดในกทม.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า 19สถานที่ เสี่ยงโรค โควิด 19 ในเขตพื้นที่กทม. ได้แก่ 1. สถานบันเทิง 2. บ้าน/ติดจากครอบครัว 3. สถานที่ทำงาน/บริษัท 4.เชื่อมโยงกับต่างจังหวัด 5.สถานที่กักกันของรัฐ/สถานที่กักกันทางเลือก 6.งานเลี้ยง/สัมนา/งานบวช 7.สถานพยาบาล 8.ตลาด 9.ร้านอาหาร 10.ห้าง/ร้านสะดวกซื้อ 11.สถานที่เล่นกีฬา ยิม 12.สถานีตำรวจ(ตำรวจ) 13.สถานศึกษา 14.เรือนจำ 15.ศาสนสถาน 16.ติดในคอนโด 17.ร้านเสริมสวย นวด สปา 18.ขนส่งสาธารณะ(พนักงานขับรถสาธารณะ)และ19.อื่น


"สำหรับในจังหวัดต่างๆ จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นข้อมูลนำเข้าเสนอเพื่อเพิ่มมาตรการต่อศบค.ชุดเล็ก และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวักเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในการประกาศมาตรการรายละเอียดของจังหวัด เพื่อทำให้สถานการณ์ในจังหวัดดีขึ้น อย่างเช่น ขณะนี้มีคำสั่ง 42 จังหวัดแล้วที่ให้ใส่หน้ากากเมื่อออกนอกเคหะสถาน " นพ.ทวีศิลป์กล่าว