'อนุทิน' ยันเดินหน้าใช้ 'Sinovac' ต่อ ระบุ วัคซีนกันติดโควิด-19 ไม่ได้ แค่ลดรุนแรง-เสียชีวิต

       นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ โดยยืนยันต่อการเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19  ของบริษัทซิโนแวค ให้กับกลุ่มเป้าหมายต่อเนื่อง เพราะคนที่แพ้วัคซีนมีน้อยกว่าคนที่ฉีดวัคซีน ทั้งนี้กรณีของทีมแพทย์ที่มีอาการแพ้วัคซีนจะรับวัคซีนเข็มที่2 หรือไม่นั้น เป็นการตัดสินใจทางการแพทย์ ทั้งนี้ยืนยันว่าวัคซีนแอสตร้าซิเนก้า ยังเป็นวัคซีนหลักของประเทศ ทั้งนี้ในการลงนามสัญญาต้องผลิตวัคซีนในประเทศ แต่จะเกิดขึ้นได้ คือ เดือนมิถุนายน ไม่สามารถทำให้เร็วกว่านี้ได้ เพราะมีขั้นตอนต้องดำเนินการ ทั้งนี้ยืนยันว่าการนำเข้าวัคซีนยังเป็นไปตามไทม์ไลน์ แต่ช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา เกิดการระบาดรองสอง และจากกลุ่มก้อนที่ไม่เกี่ยวกับสาธารณสุข แต่เป้นกลุ่มที่ไม่ใช่ชีวิตประจำวันของคนไทย ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาล เร่งนำเข้าวัคซีน

       “วัคซีนของซิโนแเวค จำนวน 2-3ล้านโดส เน้นให้บุคลากรทางการแพทย์ คนที่อยู่ในข่ายเสี่ยงสูง ช่วงที่เกิดการระบาด วัคซีนไม่ได้ช่วยให้ป้องกัน  แต่เพื่อป้องกันให้หมอ แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ที่รับเชื้อมีโอกาสที่โรคจะรุนแรง และเสี่ยงทำให้เสียชีวิตน้อยลง ทั้งนี้ทีมแพทย์ที่รับวัคซีนไปแล้วไม่ได้หมายความว่าจะไม่ติดโรค” นายอนุทิน กล่าว

       นายอนุทิน กล่าวถึงการเจรจากับตัวแทนบริษัทไฟเซอร์ ในวันนี้ (22 เมษายน) ว่า จะเป็นการหาวิธีนำเข้าวัคซีนให้เร็วขึ้น หลังจากทีก่อนหน้านี้ได้เจรจาและพบว่าการส่งมอบวัคซีนจะเร็วสุด คือ ปลายปี แต่ขณะนั้นการระบาดไม่มาก ความจำเป็นของวัคซีนที่เข้ามาช่วงปลายปี คือ ไม่มีประโยชน์ แต่มีเพื่อสำรองไว้เท่านั้นแต่เมื่อสถานการณ์ผ่านไป มีรายละเอียดที่คุยกันได้ เช่น อุณหภูมิรักษา อายุของผู้รับวัคซีน ที่เร่ิมตั้งแต่อายุ 12 ปี  จากวัคซีนที่ใช้ปัจจุบันเร่ิมต้นอายุที่ 16 ปี  จึงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง

 

        นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มวีไอพี ก่อนประชาชน ว่า คำว่าวีไอพี นิยามกว้าง บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ คนที่รับวัคซีน ต้องลงชื่อ ลงทะเบียนกับหน่วยที่ได้รับวัคซีน เช่น กทม. กรมควบคุมโรค โรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งหัวหน้าหน่วยจะพิจารณาสิทธิของบุคคลที่ได้รับวัคซีน