เร่งเยียวยา 'ผู้ประกันตน' ทำงานกลางคืนจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19

เร่งเยียวยา 'ผู้ประกันตน' ทำงานกลางคืนจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19

"ก.แรงงาน" ขานรับข้อห่วงใยนายกรัฐมนตรี กรณีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด- 19" แก่ "ผู้ประกันตน" ลูกจ้างทำงานกลางคืนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงจากข้อห่วงใยของรัฐบาล ได้ให้ช่วย"ก.แรงงาน"ดูแลพี่น้อง "แรงงาน" ที่ "ทำงานกลางคืน"ให้เหมือนคนในครอบครัวภายใต้กรอบของกฎหมาย เนื่องจากคน "ทำงานกลางคืน" เช่น ผับ บาร์ สถานบันเทิง ภัตตาคาร ร้านอาหาร สถานบริการ เป็นต้น

ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด- 19" ซึ่งเป็น "ผู้ประกันตน"ให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยากรณีนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ให้ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย "โควิด-19"

  • กำชับดูแล "ผู้ประกัน" ทำงานกลางคืนกรณี "โควิด-19"

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กรณีเหตุสุดวิสัย"โควิด-19" กระทรวงแรงงาน ได้ออกกฎกระทรวงได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป

ให้ความคุ้มครองกรณี "ผู้ประกันตน"ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากต้องกักตัวเฝ้าระวังการระบาดของโรค นายจ้างต้องหยุดประกอบกิจกรรมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ และลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น

  • ลูกจ้าง "ผู้ประตน"มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานร้อยละ 50

ให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน รวมกันไม่เกิน 90 วันซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป และสำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้นายจ้างและ "ผู้ประกันตน"ที่ได้รับผลกระทบยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนโดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.sso.go.th