EEC ต้องเร่ง“สร้างบ้าน” รับลงทุนหลังศก.โลกฟื้น

EEC ต้องเร่ง“สร้างบ้าน”  รับลงทุนหลังศก.โลกฟื้น

มองดูแล้วกว่าที่วิกฤติของโควิด – 19 จะทำให้ทุกอย่างกลับมาสะดวกสบายและเศรษฐกิจกลับเหมือนปกติที่เคยทำ ไม่ว่าการเดินทาง ภาพของความแน่นอนของการลงทุนและการทำธุรกิจเหมือนก่อนโควิดนั้นก็คงอีกสักพัก

มองดูแล้วกว่าที่วิกฤติของโควิด – 19 จะทำให้ทุกอย่างกลับมาสะดวกสบายและเศรษฐกิจกลับเหมือนปกติที่เคยทำ ไม่ว่าการเดินทาง ภาพของความแน่นอนของการลงทุนและการทำธุรกิจเหมือนก่อนโควิดนั้นก็คงอีกสักพัก และยิ่งปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศที่ขั้วมหาอำนาจกำลังหน้ามืดในการแผ่อิทธิพลของตนเองได้ใช้ทุกวิถีทางในการจัดการกับประเทศต่าง ๆ โดยการใช้การเมือง การทูต และการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งอิทธิพลผ่านองค์กรระหว่างประเทศ หรือแม้แต่การแอบแทรกแซงการเมืองภายในของประเทศต่าง ๆ เรียกว่า “ใส่ทุกรูปแบบ” 

ทำให้นักลงทุนต่าง ๆ คิดหนักและตัดสินใจยากลำบากขึ้น เพราะปัจจัยในการตัดสินใจมีมากขึ้นและซับซ้อนกว่าเดิมมาก ทำให้ไม่ง่ายนักในการเลือกลงทุนและทำแผนอนาคตธุรกิจของตนเองในแต่ละแห่งของโลกอย่างไร และนี่คือสิ่งหนึ่งที่ผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ต้องตระหนักมากขึ้นกว่าตอนที่คิดสร้าง EEC ขึ้นมาใหม่ ๆ

ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจจุดขายของ EEC ในวันนี้ก่อนว่าเราขายภาพฝันของมหานครที่เพียบพร้อมกับการอยู่อาศัยและการทำงาน และรัฐได้เข้ามาสร้างหลักประกันว่า “เอาจริง” การสร้างโครงการต่าง ๆ และผมเชื่อว่านี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ คือ โครงการใหญ่ ๆ ที่สำคัญ ๆ นั้นได้เริ่มต้นมาแล้ว และกำลังดำเนินงาน

ผู้ลงทุนและผู้คนทั่วไปที่เฝ้าเงี่ยหูฟังตลอดเวลา เพราะถือว่าสำคัญต่ออนาคตของ EEC เดินไปอย่างราบรื่นหรือไม่อย่างไร เท่าที่ทราบนั้นเลื่อนเป้าหมายเป็นส่วนมาก เพราะโครงการที่เป็นงานของภาครัฐนั้น การจัดซื้อจัดจ้างและงบประมาณ เป็นข้ออ้างหลัก ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่ควรแจงความเชื่อมั่นต่อความสำเร็จว่าเสร็จแน่ ๆ ตอนนี้ถือว่าโชคดีที่เหล่านักลงทุนยังไม่เร่งเท่าไร แต่เราต้องจัดการบ้านเราให้งามพร้อมตอนที่เศรษฐกิจและสถานการณ์โลกดีขึ้น ถ้าบ้านเราพร้อมและงามกว่าของคนอื่น ผู้คนก็จะเลือกมาอยู่กับเราและ EEC ก็เป็นบ้านของเขาละครับ

วันนี้ที่โลกกำลังเงียบเหงา ผู้คนหดหู่ ความหวังริบหรี่ นักลงทุนคิดมาก และหลาย ๆ คนรอความหวังจากวัคซีนและปาฏิหาริย์ เราอาจต้องสร้างเรื่องราวของความคืบหน้าให้หนักกว่าที่เป็นอยู่ ผมเห็นท่านเลขาฯ EEC ออกข่าวความคืบหน้าของโครงการและจุดประกายในโครงการใหม่ ๆ ในระดับชุมชนมาตลอด เพื่อความเชื่อมั่น ไว้ใจให้กับชุมชนว่าชีวิตเขาจะดีขึ้นใน EEC และการเร่งทำในช่วงนี้เป็นการสร้างแสงสว่างในความมืดสลัวของความหวังและทำในพื้นที่ที่เรากำลังสร้างอนาคตของประเทศ

การจัดการเรื่องใหม่ ๆ ที่ต้องมองให้ไกลกว่านี้ คือ การเชื่อมโลก เพราะ EEC ต้องสร้างภาพฝันให้ชัดและไกลอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากคู่แข่งของเราในภูมิภาคนี้ วันนี้ไม่ได้หายใจรดต้นคอเราครับ แต่เขาโชว์ท้ายทอยให้กับเราไปแล้วในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ และมูลค่าการส่งออก อย่างกรณี แลนด์บริจด์ภาคใต้ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ EEC ผมถือว่าเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ การเดินเรือเชื่อมภาคใต้จากท่าเรือจุกเสม็ดไปประจวบและชุมพรก็ถือว่าสำคัญยิ่ง ต้องตามความคืบหน้ากันต่อละครับ

การจัดการเรื่องในบ้านของเรานั้น ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่ EEC เท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญของความน่าสนใจของ EEC ต่อนักลงทุนด้วย หากมองในบริบทการแข่งขันในเชิงเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว ผมยังมองว่าความสะดวกทางการค้า การลงทุน และความพร้อมของระเบียบ เป็นสิ่งที่เราต้องเร่งแก้ไข ไม่งั้นเราก็คงได้ยินนักลงทุนบ่นเรื่อง วีซ่า การขอ work permit การขอใบอนุญาตต่าง ๆ จิปาถะเหมือนเดิม ที่เคยบ่นมาตลอดสามสิบสี่สิบปี ซึ่งต้องเข้าใจว่าตลาดบ้านเราไม่รองรับอย่างเพียงพอในเชิงธุรกิจ และการเชิญให้มาลงทุนเพื่อเป็นศูนย์การผลิตนั้น ต้องมีการส่งออกที่ได้เปรียบ และการนำเข้าที่สะดวก ดังนั้นการตัดสินใจด้านนโยบายมีความจำเป็นอย่างมาก และคนรับผิดชอบภาพรวมต้องมองออกให้ครบและกล้าตัดสินใจ และยิ่งหากเอาเรื่องเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี มารวมกับความนิยมทางการเมืองแล้ว ผมก็ต้องมองอนาคตของ EEC อย่างใจระทึกละครับ