“คอมเซเว่น” โหนกระแสโควิดรีเทิร์น ราคาหุ้นพุ่งปรับกำไรโต

 “คอมเซเว่น” โหนกระแสโควิดรีเทิร์น  ราคาหุ้นพุ่งปรับกำไรโต

โควิด-19 ระลอก 3 ทำเอาตลาดหุ้นหวั่นไหวไม่น้อยจากที่ดัชนีเหนือ 1,600 จุดได้สำเร็จจนภาครัฐออกมาตรการ “เข้ม” แต่ “ไม่งวด” เท่าปี 2563 ด้วยการขอความร่วมมือ “ล็อกดาวน์” แทนการบังคับตามกฎหมายจึงทำให้ดัชนีหุ้นพลิกกลับมาบวกแทน

รอบนี้สถานการณ์แม้จะมีความรุนแรงเพราะการติดเชื้อรวดเร็วแต่ยังมีความหวังว่าวัคซีนจะมาช่วย “เยียวยา” ได้ทันการแม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะต้องล่าช้าออกมาไปไม่ต่ำกว่า 1 ไตรมาส ซึ่งจากการระบาดในรอบนี้ทำให้การเน้น Work from home กลายการหยุดเชื้อได้ดีที่สุด

อานิสงค์ดังกล่าวจึงทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไอทีกลับตัวบวกตามกระแสต่อเนื่อง หุ้นที่นำกลุ่ม บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ราคาทำนิวไฮ 77.50 (19 เม.ย.) เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนมี.ค. ราคาปิดอยู่ที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 21 % และเปรียบเทียบสิ้นปี 2563 ราคาปิด 39.00 บาท เป็นการเพิ่มขึ้น 98.71 %

การปรับตัวขึ้นมาในรอบนี้นอกจากปัจจัยบวกการเน้นทำงานและเรียนออนไลน์แล้ว COM7 ยังมีปัจจัยเสริม คือการออกมาประกาศอย่างเป็นทางการของ แอปเปิ้ล อิงค์ โดย “ทิม คุก ” ถึงการจัดงานประชุมผ่านระบบออนไลน์ Spring Loaded วันที่ 21 เม.ย. 2564 เวลา 0.01 น. ตามเวลาประเทศไทย

การคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัว iPad Pro (คาดว่าจะเป็นการ อัพเกรดให้มีการแสดงผลแบบ Mini-LED และใช้ chipset A14X Bionic), iMac และ AirTags และงาน Worldwide Developers Conference (WWDC) 7-11 มิ.ย. 2564  ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า จะมีการเปิดตัว ไอโฟน 13 ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ผ่านมา แอปเปิลมักเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ รวมทั้ง iPad Pro, iPad mini6, AirPods3, iMac และ Mac รุ่นใหม่ รวมทั้งการเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ เช่น iOS15 , iPadOS15 , macOS12 , tvOS15 และ watchOS 8 เป็นต้น

นอกจากนี้มีความคาดหวังว่าจะเปิดตัวซอฟท์แวร์ของผลิตภัณฑ์หลายอย่างในรูปแบบเบต้าให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทำการทดสอบ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก่อนหน้านี้ COM7 รายงานสิ้นปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,494.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 % ได้ผลดีจากการทํางานอยู่ที่บ้านและการเรียนนผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเปิดธุรกิจใหม่ ให้เช่าโน๊ตบุค สำหรับลูกค้าองค์กร จนมียอดขายออนไลน์เติบโตเพิ่มขึ้น 400% จากลูกค้าที่หันมาซื้อคอมพิวเตอร์ แล๊บท๊อป และแท๊ปเลท

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1 ปี2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอส คาดกำไรปกติขยายตัวสูงจากสินค้ากลุ่มไอโฟน และ WFH มีกำไรปกติ 463 ล้านบาท (+61% YoY, -17% QoQ) เพิ่มขึ้นจากยอดขาย ไอโฟน12 ทีเลื่อนมาเปิดตัวในเดือน ต.ค.2563

สาขาใหม่ที่ เพิ่มขึ้นจำนวน 100แห่ง และ ประเภทสินค้า IoT ที่ สูงขึ้น ภายหลังที่มีการขาย Xiaomi และความต้องการสินค้า work from home ที่อยู่ระดับสูงจากการ แพร่ระบาด โควิด-19 ในช่วงเดือน ม.ค. และต่อเนื่องในเดือน มี.ค.

ดังนั้นจึงปรับกำไรปกติปี 2564-2565 เพิ่มขึ้นปี ละ +6%/+11% ปรับประมาณการกำไรปกติปีดังกล่าวขึ้น +6%/+11% เป็ น 1.89 พันล้านบาท (+31% YoY) และ 2.41 พันล้านบาท (+28% YoY) ตามลำดับ  เพื่อสะท้อนความต้องการสินค้าไอที ที่เพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดอบใหม่ 

โดยเฉพาะคสัสเตอร์ทองหล่อที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานทำให้ องค์กรต่างๆ ลงทุนในสินค้าไอที และปรับราคาเป้าหมายใหม่จากเดิม 60.00 บาทเป็น 85.00 บาท ตามผลการดำเนินงานที่จะยังคงเติบโตดีต่อเนื่องที่ จากความต้องการสินค้าไอที และ IoT ที่อยู่ในระดับสูง และกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนใน บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP ที่ทำธุรกิจสินเชื่อเช่า