สุดช้ำ 'ตรวจเชื้อโควิดผิด' พ่อขอเป็นเคสสุดท้าย

สุดช้ำ 'ตรวจเชื้อโควิดผิด' พ่อขอเป็นเคสสุดท้าย

นศ.สาว โพสต์ถูกแจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 ความแตกหลังเข้ารับการรักษาที่รพ.ลำปาง แต่ไม่มีเอกสารยืนยัน เช็คผลออนไลน์แทบช็อก “ไม่ติดเชื้อ” แต่อยู่ร่วมกับผู้ป่วยนานถึง 3 วัน ทวงถามสสจ.เชียงใหม่ รับผิดชอบอย่างไร ขณะที่พ่อเผย ขอเป็นเคสสุดท้ายที่ทำความผิดพลาด

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเฟซบุ๊กของชื่อ " ต้นฝน ต้นฝน" ได้ออกมา โพสต์ว่า **รบกวนทุกท่านช่วยแชร์เรื่องนี้ให้หนูด้วยค่ะ** สวัสดีค่ะ เราเป็นเจ้าของโพสที่เปิดเผยไทม์ไลน์ที่ไปเที่ยวขอนแก่นนะคะ ผลสรุปจริงๆแล้ว “เราไม่ได้ติดเชื้อ” ค่ะ

เคสของหนูเกิดจากการทำงานผิดพลาดของสาธารณสุขเชียงใหม่ ที่บอกผลหนูผิด ว่าหนูติดเชื้อ COVID-19 และประสานงานผิดพลาดกับรพ.ลำปาง เอกสารยืนยันอะไร ไม่มี แล้วรับหนูเข้ารับการรักษาได้อย่างไร หนูต้องมานอน รพ. 3 คืน และจากที่ไม่เสี่ยงไม่มีเชื้อ กลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเดิม เพราะได้พักรักษาตัวร่วมห้องกับผู้ติดโควิด

ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ

สำหรับไทม์ไลน์

9 เมษายน 2564

  • 11.00 น. ตรวจ swab ที่รพ.ประสาท เชียงใหม่ แล้วกลับบ้านที่ลำปาง

10 เมษายน 2564

  • 10.30 น. มีเจ้าหน้าที่จากสสจ.เชียงใหม่ โทรแจ้งว่า ผลเป็น บวก (ติดเชื้อ) จะทำเรื่องประสานงานกับรพ.ลำปางให้ (098-1023422)
  • 14.00 มีเบอร์จากรพ.ลำปางโทรมา รับเรื่องมาจากสาธารณสุขเชียงใหม่ จะมารับตัวเข้ารับการรักษา ส่วนตัวคิดว่าทั้ง 2 หน่วยงานต้องประสานงาน มีเอกสารยืนยัน ว่าหนูติดเชื้อจริง เพื่อเข้ารับการรักษา

11 เมษายน 2564

  • นอน รพ. และมีผู้ป่วยโควิดมารักษาในห้องเดียวกัน 1 คน

12 เมษายน 2564

  • 22.20 น. พยาบาลโทรถาม ว่ามีใบ เอกสารยืนยันไหมว่าเป็น ซึ่งเราไม่มีเข้าใจว่าทั้ง 2 หน่วยงานประสานกัน และต้องมีเอกสารก่อนรับเราเข้าแล้ว งงมาก ตัวเราเลยประสานงานกับทางคณะบริหารธุรกิจให้ช่วยตามเรื่องให้
  • 22.35 น. เปิดผลตรวจทางออนไลน์ของเว็บ พบว่า ‘ไม่ติดเชื้อ’
  • 23.50 น. แยกหนูมานอนอีกห้องก่อน เพราะก็คงไม่แน่ใจผลมั้งคะ งงกันไปหมด สรุปติดหรือไม่ติด

13 เมษายน 2564

  • 08.00 น. รพ.ลำปาง เลยทำการตรวจเชื้อใหม่รอบ 2
  • 08.40 น. สสจ.เชียงใหม่โทรมาถาม ว่าอยู่ไหน รพ.อะไร แจ้งว่า ผลคือ ไม่ติดเชื้อ (098-1026706) แล้วจะประสานงานให้อีกที ขอเบอร์ต้นทาง คนแรกที่โทรหาหนูไป หลังจากนั้นเค้าก็ไม่ติดต่อกลับมา ว่าสรุปยังไง
  • 12.00 น. คณะบริหารธุรกิจโทรมาบอกว่า มหาลัยติดต่อให้แล้ว ทราบว่า ผลไม่ติดเชื้อ
  • 12.30 น. โทรขอใบยืนยันผลจาก สสจ.(095-2053408)
  • 13.00 น. สสจ.เชียงใหม่ส่งเอกสารยืนยันมาทางอีเมลล์ ผลคือ ไม่ติดเชื้อ
  • 15.00 น. ทางรพ.ลำปาง ยืนยันผลรอบ 2 ว่า ไม่ติดเชื้อ

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายหลายอย่างในวงกว้าง ทุกคนหวาดกลัว ร้านทุกร้านต้องปิด จ้างทำความสะอาด และบางคนก็เสียเงินเพื่อไปตรวจ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าร้านค้าตนเองปลอดภัย และทำให้หนูจากคนที่‘ปลอดเชื้อ’ กลายเป็น ‘คนเสี่ยงสูง’ รวมถึงสภาพจิตใจที่แย่มาก ทั้งคนที่ด่า และการทำงานที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงของหน่วยงาน แบบนี้จะรับผิดชอบยังไงคะ เรื่องแบบนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้นค่ะ เข้าใจนะคะว่าต้องตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาตรวจเป็นจำนวนมาก แต่ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบควรมีความรับผิดชอบ, ความรอบคอบให้มากกว่านี้ไหม มันเป็นเรื่องใหญ่นะคะ เข้าใจว่าทางบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทำงานกันหนักมาก เห็นใจค่ะ แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครจริงๆ ค่ะ

มาแชร์ไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ และ ฝากคำถามไว้นะคะ 1. ตรวจผิดไปแล้วกี่ราย ? 2. สสจ. จะตรวจสอบใหม่ได้ทั้งหมดได้อย่างไร ? 3. จะเยียวยายังไงสำหรับการที่เอาคนปลอดเชื้อไปรวมกับผู้ติดเชื้อ กลายเป็นความเสี่ยงสูง ? 4. มีคนติดจริงๆ แต่แจ้งผลว่าไม่ติดไหม ? ถ้ามีแสดงว่าคนเหล่านี้ยังใช้ชีวิตปกติโดยไม่รู้ตัว ถ้าเกิด cluster อีกความผิดใคร

เข้าใจนะคะ คนตรวจเยอะหลักหลายพัน แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ควรพลาดไหมคะ คือไม่มีการrecheckก่อนจะทำการแจ้งผู้เข้ารับการตรวจเหรอคะ

ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจมากๆ ค่ะ ตัวเราเอง ตกใจกว่า ตอนรู้ว่าไม่ติดเชื้อ แต่ตอนแรกที่โทรมาบอกว่าติดโควิด เรารับผิดชอบต่อสังคม เปิดเผยทล.ทุกอย่าง กลัวว่าคนที่ใกล้ชิด/ไปสถานที่เดียวกันจะติด ก็อยากให้ self-monitoring กันไป เข้าใจค่ะว่าทุกคนแพนิค และก็ขอบคุณมากๆจากใจจริงค่ะสำหรับคนที่เข้าใจเราตอนเปิดไทม์ไลน์ ขอบคุณจริงๆๆค่ะ

แต่ยังไงก็ตาม ในสถานการ์ณแบบนี้ ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองกันต่อไปค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจค้า

ปล.รูปเอกสารได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วค่ะ

เราเสียหายทุกทาง ยังไงช่วยเรารีหน่อยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ขณะที่เฟสบุ๊คของ ณรงค์ พินธิสืบ ได้แชร์เฟซบุ๊กของลูกสาว พร้อมเขียนข้อความว่า ขอเป็นเคสสุดท้ายที่ทำผิดพลาดนะครับ เรื่องหนักมากๆสำหรับหัวอกคนเป็นพ่อและครอบครัว #สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ #โรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือลำปาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบว่า กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล