CHAYO ดึงรายใหญ่ร่วมทุน "ชโย เจวี" ระดมเงิน 1.3 พันล้านเสริมแก่งธุรกิจ

CHAYO ดึงรายใหญ่ร่วมทุน "ชโย เจวี" ระดมเงิน 1.3 พันล้านเสริมแก่งธุรกิจ

"ชโย กรุ๊ป" ตั้งบริษัทร่วมทุน "ชโย เจวี" ลุยธุรกิจบริหารหนี้ ประกาศเพิ่มฐานทุนอีก 1.3 พันล้าน จากการใชิสิทธิวอแรนต์ 556.62 ล้าน พร้อมเสนอขายหุ้นนักลงทุนรายใหญ่ 45% รับเงินอีก 810 ล้าน

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2564 มีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W1 มาใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญจำนวน 85.64 ล้านหน่วย โดย CHAYO ได้รับเงินจากการแปลง CHAYO-W1 จำนวน 556.62 ล้านบาท เสริมฐานทุนให้บริษัทแข็งแกร่ง หนุนแผนการเติบโตในปีนี้ที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 25%

ต่อมา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. แผนการหาเงินเพิ่มเติมเพื่อมาต่อยอดการเติบโตของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ผ่านการจัดตั้งบริษัท ชโย เจวี จำกัด (Chayo JV) ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว โดย Chayo JV ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด พร้อมประกาศเพิ่มทุนในบริษัท Chayo JV อีกจํานวน 1,745 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 55 ล้านบาท

โดย CHAYO จะเข้าถือ Chayo JV ประมาณ 55% จากเดิมถืออยู่ 99.99% (ทั้งนี้ เงินลงทุนที่ใช้ในครั้งนี้ประมาณ 80 - 90% บริษัทมีแผนที่จะออกตราสารหนี้ และ/หรือเงินกู้ยืมเพื่อมาลงทุน) พร้อมดึงนักลงทุนรายใหญ่ไม่เกิน 9 ราย ถือหุ้น 45% โดยนักลงทุนต้องใส่เงินประมาณ 810 ล้านบาท หากสำเร็จ CHAYO จะมีเงินอีก 1,800 ล้านบาท ในการลงทุนเพิ่มในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ เพิ่มเติมจากแผนที่บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด (CHAYO ถือ 100%) วางไว้ในการซื้อหนี้มาบริหารปีนี้อีก 10,000 ล้านบาท โดยมีงบลงทุนไว้ที่ 1,000 – 1,200 ล้านบาท

หากแผนการเสนอขายหุ้น 45% ใน Chayo JV  ให้กับนักลงทุนสำเร็จ จะทำให้บริษัทมีฐานทุนเพิ่มอีกประมาณ 1,367 ล้านบาท (มาจากการแปลง CHAYO-W1 557 ล้านบาท และมาจากนักลงทุน 810 ล้านบาท) โดยจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของรายได้บริษัทในปีนี้ (ที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 25%) และในปีต่อๆ ไป

ทั้งนี้ การมีฐานทุนเพิ่มอีก 1,367 ล้านบาท จะส่งเสริมศักยภาพในการเติบโต และ/หรือศักยภาพในโครงสร้างทางการเงิน (Leverage) หรือกู้ยืมเงินของบริษัทได้อีกมาก และจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทต่ำลง โดย D/E Ratio ณ วันที่ 31 ธ.ค.2563 อยู่ที่ 1.38 เท่า (Interest Bearing Debt)

ปัจจุบันเราได้มีการพูดคุยกับนักลงทุนจำนวนไม่เกิน 9 ราย โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการร่วมทุนอย่างมาก โดยเราจะพยายามหานักลงทุนที่จะมาช่วยต่อยอดธุรกิจของเราเป็นหลัก และเราคาดหวังเป็นอย่างมากที่เราจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจและการเติบโตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญและมั่นคง” นายสุขสันต์ กล่าว

ทั้งนี้  CHAYO ดำเนินธุรกิจหลักคือ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดย ณ สิ้นปี 2563 CHAYO มีพอร์ตบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรวมอยู่ที่ 65,397 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่มีหลักประกันราว 75% และหนี้ที่มีหลักประกันราว 25% ของพอร์ตบริหารหนี้รวม ตั้งเป้าหมายปี 2564 ขยายการลงทุนรองรับการซื้อหนี้เสีย หนุนเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน