‘ผู้แทนพิเศษยูเอ็น’ เยือนไทย ร่วมหาทางออกสถานการณ์ 'เมียนมา'

‘ผู้แทนพิเศษยูเอ็น’ เยือนไทย ร่วมหาทางออกสถานการณ์ 'เมียนมา'

"คริสติน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์" ผู้แทนพิเศษด้าน "เมียนมา" เยือนประเทศไทย ขณะนี้กักตัวตามมาตรการโควิด 7 วัน หลังจากนั้น จะพบ "ดอน ปรมัติถ์วินัย" ร่วมหาทางออกสถานการณ์อย่างสันติ ตามแนวทางประชาธิปไตยในเมียนมา

กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันในวันเสาร์ (10 เม.ย.) ว่า นางคริสติน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในประเด็นเมียนมาเยือนประเทศไทย โดยเดินทางมาถึงเมื่อเช้าของวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา

แถลงการณ์นี้ออกโดยกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า การเยือนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งตามแผนของทูตพิเศษยูเอ็นด้านเมียนมา ที่มีการเยือนหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์เมียนมา พร้อมด้วยมุมมองในการค้นหาแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้

“ประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้าน มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนเมียนมา ไทยมีความมุ่งมั่นอย่างจริงต่อความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์กับประชาคมระหว่างประเทศ ผ่านยูเอ็น และอาเซียน ในการหาทางออกโดยสันติเพื่อประชาชนและประเทศเมียนมา โดยไทยหวังว่าการเยือนภูมิภาคของทูตพิเศษยูเอ็นในครั้งนี้จะสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาที่เป็นไปได้” กระทรวงการต่างประเทศระบุ 

นางบูร์เกเนอร์ ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการยูเอ็น เพื่อสนับสนุนกระบวนการปฏิรูปการปรองดองและการทำให้เป็นประชาธิปไตยในเมียนมา รวมทั้งจัดการกับความรุนแรงในรัฐยะไข่และผู้พลัดถิ่นของชาวโรฮิงญา

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศยังระบุว่า เนื่องจากนางบูร์เกเนอร์ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว 2 โดสก่อนเดินทางมาถึง ทำให้เธอจะได้รับการกักบริเวณใน ASQ เป็นเวลา 7 วัน และเมื่อครบกำหนดระยะเวลากักกันแล้ว นางบูร์เกเนอร์จะเริ่มพบปะหารือกับบุคคลต่างๆ ในรัฐบาลไทยรวมทั้งนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสังกัดยูเอ็น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางบูร์เกเนอร์ได้ทวีตข้อความในค่ำวานนี้ (9 เม.ย.)ว่า รู้สึกเสียใจหลังได้รับแจ้งเมื่อ 1 วันที่ผ่านมาว่า เมียนมาไม่พร้อมต้อนรับ ทั้งที่ตนได้เตรียมการพบปะแบบสานเสวนาเพื่อร่วมหาทางออกสถานการณ์ในเมียนมา เพราะความรุนแรงไม่เคยเป็นหนทางออกแก้ไขปัญหาอย่างสันติและยั่งยืน