มีโอกาสผันผวนทางลง ก่อนได้แรงหนุนจากงบไตรมาส 1

ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียส่วนหนึ่งปรับลดลงเล็กน้อยจากความกังวลการระบาดระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยกระทบกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดเป็นระยะเพื่อสกัดการแพร่ระบาด ขณะที่สถานการณ์ระบาดในไทย วันที่ 7 เม.ย.64 พบผู้ติดเชื้อ 334 ราย ใน 27 จังหวัด อย่างไรก็ตามรัฐบาลและศบค.ไมได้มีการประกาศมาตรการเพิ่มเติม และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแต่ละจังหวัดในการออกมาตรการควบคุมที่เหมาะสม

ตัวเลือกวัคซีนที่น้อย และการฉีดที่ช้าทำให้การคุมและแผนเปิดประเทศทำได้ลำบาก สถานการณ์ระบาดในสหรัฐฯ และยุโรปหลายประเทศดีขึ้น จากการมีวัคซีนที่หลากหลาย และการเร่งฉีดวัคซีนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน (daily cases) รวมถึงผู้เข้ารับการรักษา (active case) ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ในไทยและบางประเทศในเอเซียมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากวัคซีน Astrazeneca และ Sinovac ให้ผลการป้องกันดีต่อสายพันธ์โควิดเดิม แต่ให้ผลด้อยลงมากในสายพันธ์ใหม่ (อังกฤษและแอฟริกา) ดังนั้นเราประเมินตลาดหุ้นในระยะสั้นอาจตอบรับกับความเสี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษบกิจที่ช้าลง และการเปิดประเทศที่ล่าช้าไปจากเดิม ซึ่งจะกระทบต่อกบลุ่มท่องเที่ยวและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ

บรรยากาศยังสนับสนุนการเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back รวมถึง Asset warehousing เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 2) กลุ่มเปิดเศรษฐกิจ บวกต่อ CPN, CRC, MAJOR, SPA, BDMS, M 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) Re-rating PTG 6) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 7) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, TOP ส่วน SCC ยังขึ้นน้อยที่สุดใน 1 ปี ที่ผ่านมา 8) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART 9) การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร บวกต่อหุ้นประกัน THRE, TIP, BLA

ภาพรวมกลยุทธ์ ระยะสั้นตลาดมีแนวโน้มสะท้อนความกังวลการระบาดระลอกใหม่ก่อนฟื้นตัวจากผลประกอบการไตรมาส 1/64 ทำให้ภาพรวมเป็นการระวังหุ้นที่ขึ้นเยอะ และทยอยตั้งรับ โดยอาจเลือกหุ้นผสมระหว่างฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง กองรีทส์ที่มีการถือครองต่ำ รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร TISCO*, IRPC*, PTG*, BTSGIF*

แนวรับ 1,546 / แนวต้าน : 1,560-1,568 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

EMA เผยวัคซีนแอสต้าเซเนก้ามีผลต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน. องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีผลทำให้เกิดลิ่มเลือกอุดตันในผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว อย่างไรก็ดี EMA ยืนยันว่า ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ายังคงมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

สหรัฐขาดดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้า เดือน ก.พ. พุ่งขึ้น 4.8% สู่ระดับ $7.11 หมื่นล้าน ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หอการค้าฯหวั่น lockdown กระทบเศรษฐกิจ 5 พันลบ. หอการค้าฯ เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับผู้ว่า กทม. เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เบื้องต้นคาดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจประมาณ 5 พันล้านบาท หากมีการ Lockdown โดยจะคุมการเปิด-ปิดเป็นรายประเภทธุรกิจและพื้นที่เท่าที่จำเป็น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้จำกัด

ครม.ไฟเขียวแก้ไข พ.ร.บ.เครื่องสำอาง. ครม.เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอางให้เหมาะสมและรวดเร็ว หวังกระตุ้นความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

GULF-PTT. ครม.ไฟเขียวผลตอบแทนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ปิดดีลที่ 29,050 ล้านบาท รอลงนามสัญญาอีก 2 เดือนจากนี้

ประเด็นติดตาม: - 8 เม.ย. : TH Consumer Confidence เดือน มี.ค., US Initial Jobless Claims, Fed Chair Powell Speaks

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)