ซากุระบานเร็ว ‘สัญญาณวิกฤติโลกร้อน’

ซากุระบานเร็ว ‘สัญญาณวิกฤติโลกร้อน’

ซากุระญี่ปุ่นบานเร็วสุดในรอบ 1,200 ปี นักวิทยาศาสตร์เตือน นี่คือสัญญาณวิกฤติโลกร้อนที่รุนแรงยิ่งขึ้น

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ดอกซากุระขาว ชมพู บานสะพรั่งไปทั่วเมืองและหุบเขาในญี่ปุ่น กลีบดอกร่วงหล่นบนพื้นถือเป็นภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ ดอกซากุระที่บานเต็มที่อยู่เพียงไม่กี่วันได้รับการชื่นชมจากชาวญี่ปุ่นมานานนับพันปี ผู้คนจะออกมาชื่นชมความงามในสถานที่สำคัญเพื่อถ่ายภาพ และปิกนิกกันใต้ต้นซากุระ

แต่ปีนี้ดอกซากุระบานเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า นี่คือวิกฤติสภาพอากาศที่ใหญ่ขึ้นเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศในทุกที่

ยาสุยุกิ เอโอโนะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซากา รวบรวมข้อมูลจากบันทึกประวัติศาสตร์และเอกสารของเกียวโตย้อนไปถึง พ.ศ.1355 พบว่า เมืองเกียวโตทางภาคกลางของประเทศ ซากุระบานเต็มที่เมื่อวันที่ 26 มี.ค. เร็วสุดในรอบกว่า 1,200 ปี

ส่วนในกรุงโตเกียว ซากุระบานเต็มที่ในวันที่ 22 มี.ค. เร็วสุดเป็นอันดับสองเท่าที่บันทึกไว้

“เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น น้ำค้างแข็งสุดท้ายในฤดูใบไม้เกิดเร็วขึ้น ดอกก็ออกเร็วขึ้น” ดร.ลูอิส ซิสกา จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพสิ่งแวดล้อมโคลัมเบียกล่าว

ทั้งนี้ วันซากุระบานเปลี่ยนแปลงไปทุกปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ ฝน แต่ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่ซากุระบานเร็วขึ้นๆ

ข้อมูลจากเอโอโนะระบุว่า ในเกียวโตซากุระบานเต็มที่ราวกลางเดือน เม.ย.มาหลายร้อยปีแล้ว แต่เริ่มขยับมาสู่ช่วงต้น เม.ย.ระหว่างทศวรรษ 1800 และเคยบานช่วงปลายเดือน มี.ค.เพียงไม่กี่ครั้ง

“ดอกซากุระอ่อนไหวกับอุณหภูมิมาก ดอกแย้มแล้วบานเต็มที่เร็วขึ้นหรือช้าลงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทศวรรษ 1820 อุณหภูมิต่ำ แต่ทุกวันนี้เพิ่มขึ้นราว 3.5 องศาเซลเซียส” นักวิจัยกล่าวทิ้งท้าย