เปิด10บจ.ถือบิทคอยน์สูงสุด ‘ไมโครสเตรทเตอจี’อันดับ1

เปิด10บจ.ถือบิทคอยน์สูงสุด  ‘ไมโครสเตรทเตอจี’อันดับ1

“คริปโตเคอเรนซี” หรือ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกมากยิ่งขึ้น ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนักลงทุนทั่วไปแล้วในคลื่น(wave)ที่ 1 และ 2 แล้ว

ปัจจุบันยังมีนักลงทุนสถาบันและบริษัทใหญ่ของโลก สนใจและเข้ามาลงทุนผ่านบิทคอยน์ด้วยเช่นกันถือเป็นwaveที่ 3 และกำลังจะเข้าสู่waveที่ 4 ที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศ

จากงานสัมมนาเปิดโลกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล How to Win Game of Crypto? โดยนิตยสารการเงินธนาคาร ในหัวข้อ “เกาะติดปรากฏการณ์ Bitcoin Fever กับคลื่นนักลงทุนสถาบันหรือวาฬแห่งโลกคริปโตเคอเรนซี"

“ปรมินทร์ อินโสม” ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ระบุ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐที่ถือครองบิทคอยน์มากที่สุด 10 อันดับนั้น นำโดย MICROSTRATEGY มีมูลค่า 3,326.49 ล้านดอลลาร์ รองลงมาเป็น TESLA มีมูลค่า 2,021.40 ล้านดอลลาร์ และ GAKAXY DIGITALมีมูลค่า 767.61 ล้านดอลลาร์ โดยที่ MICROSTRATEGY ไม่ค่อยมีคนรู้จักแต่กลายเป็นผู้จุดประกายให้ TESLA เข้ามาลงทุนบิทคอยน์นั่นเอง และยังมีหลายบริษัทที่เข้าลงทุนบิทคอยน์อีกในจำนวนที่แตกต่างกันไป

161723253548
ดังนั้นจะเห็นว่า พัฒนาการการเติบโตของมูลค่าบิทคอยน์มีการเติบโตก้าวกระโดด ถึง 1,000 เท่า นับจากต้นปี 2562 บิทคอยน์มีมูลค่าเพียง 3% ของเงินดอลลาร์เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีมูลค่าถึง 40% ของเงินดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเติบโตมากกว่า 1,000 เท่า และในอนาคตอันใกล้ ราคาบิทคอยน์จะมากกว่าเงินดอลลาร์ด้วย ขณะนี้ในตลาดเริ่มคาดการณ์แล้วว่า มูลค่าของบิทคอยน์ปรับขึ้นไปถึง 180,000 ดอลลาร์ต่อ 1 บิทคอยน์

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับขึ้นไปได้อีก ได้แก่ 1.นักลงทุนสถาบันนำเงินเข้ามาลงทุนในบิทคอยน์มากขึ้น 2 . สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ราคาปรับตัวขึ้นตามบิทคอยน์และมีโอกาสเติบโตมากกว่าด้วย จากนักลงทุนโยกเงินในบิทคอยน์มาลงทุน มองว่าเป็นวัฏจักรของตลาดคริปโตฯ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

3. คริปโตฯ ถูกใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ตอนนี้ เพย์พาว ประกาศให้ 27 ล้านร้านค้าทั่วโลก รับคริปโตฯและบิทคอยน์ เพื่อใช้ในการชำระราคาสินค้า ส่งผลบวกให้ราคาบิทคอยน์ในรอบนี้ และ 4.CBDCหรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาล ทำให้คนที่ถูกบังคับใช้ CBDC โดยรัฐบาล จะเริ่มมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้และหันมาใช้บิทคอยน์เพิ่มขึ้น

5. อีทีเอฟ คริปโตฯ จะเป็นช่องทางการลงทุนที่ทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนได้เพิ่มขึ้น 6. หน่วยงานกำกับทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับคริปโตฯ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะมีการพัฒนาดีหรือไม่ แต่สุดท้ายนักลงทุนและผู้ประกอบการ ต้องยอมรับและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกิดขึ้น และ 7. กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ให้ความสนใจลงทุนในคริปโตฯ มากขึ้นด้วยจาก 3ปีก่อนจะกลุ่มเจนวายและเจนเอ็กซ์

อย่างไรก็ตามด้วยราคาบิทคอยน์ที่ขึ้นแรงและลงเร็วเช่นนี้ “ปรมินทร์” แนะลงทุนคริปโตฯ ในสัดส่วนเพียง 5%ของพอร์ตลงทุน เท่านั้น ต้องใช้เงินเย็นเข้าลงทุน ศึกษาข้อมูลและเข้าใจการรักษาคริปโตฯด้วย ตอนนี้ตลาดคริปโตฯ เปรียบเสมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง ข้างใต้ยังมีอะไรอีกมากที่ทำให้ตลาดคริปโตฯเติบโตไปได้ไกล ไม่จากโลกนี้ไปแน่นอน

ข้อมูลจากคอยน์มาร์เก็ตแคป ระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดคริปโตฯ ทั่วโลก ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ อยู่ที่ 1.87 ล้านล้านดอลลาร์ จากปี 2563 ที่ 7.64 แสนล้านดอลลาร์ โดยในภูมิภาคเอเชีย มีคนเข้ามาลงทุนมากที่สุด และบิทคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิทัล ที่คนเข้ามาลงทุนมากที่สุด รวมถึงตอนนี้ สามารถนำบิทคอยน์มาซื้อสินค้าต่างๆ ได้ในชีวิตประจำวันได้แล้ว เช่น รถยนต์ หรือแม้แต่รองเท้า ขณะเดียวกันสกุลเงินดิจิทัลมีหลากหลายกว่า 8,915 สกุลเงิน หรือ Alternative Coin ที่สามารถเข้าไปลงทุนได้