ท่องเที่ยวจี้ 'เปิดประเทศ' 1 ก.ค. สมุยผนึกบางกอกแอร์ดึงต่างชาติ

ท่องเที่ยวจี้ 'เปิดประเทศ' 1 ก.ค. สมุยผนึกบางกอกแอร์ดึงต่างชาติ

วานนี้ (25 มี.ค.) 8 องค์กรหลักด้านธุรกิจท่องเที่ยวและบริการของไทย นำโดย มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรมแรมไทย เข้าพบ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เพื่อขอเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าวันที่ 1 ก.ค.2564 รัฐบาลน่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้!

ด้วยการทำโครงการแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสโดยไม่ต้องกักตัวเป็นการนำร่อง เมื่ออยู่ภูเก็ตครบ 7 วัน หากตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ หากสามารถดำเนินการได้ จะทำให้ปี 2564 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.5 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 3.47 แสนล้านบาท

พิพัฒน์ กล่าวว่า ก่อนที่จะรับต่างชาติเข้าภูเก็ต รัฐบาลจะเริ่มฉีดให้คนภูเก็ตเริ่มตั้งแต่เดือน มี..-..นี้ รวมจำนวน 9.25 แสนโดส ครอบคลุมประชากรประมาณ 70% ของประชากรทั้งหมด ก่อนที่จะขยายการทำแซนด์บ็อกซ์ไปที่เมืองพัทยา ซึ่งเดิมรัฐบาลบอกจะให้รับนักท่องเที่ยวเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ..นี้ แต่หากสามารถดำเนินการได้ในเดือน ก..นี้ เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 6.5 ล้านคนสามารถทำได้แน่!

และวันนี้ (26 มี..) กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 (ศบศ.) ที่มี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเพื่อพิจารณาเรื่องการนำร่องทำแซนด์บ็อกซ์ที่ จ.ภูเก็ต และการขอวัคซีนเพื่อฉีดในเมืองท่องเที่ยวหลักที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไทย

มาริสา นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 8 องค์กร ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมโรงแรมไทย, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า), สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก, สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ, สมาคมสายการบินประเทศไทย, สมาคมสปาไทย และ สมาคมธุรกิจสายการบินประเทศไทย ได้เสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ..เป็นต้นไป เพื่อต่อลมหายใจให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 1 ปี!

โดยทั้ง 6 ข้อ มีดังนี้ 1.ตั้งแต่วันที่ 1 ..นี้เป็นต้นไป ให้เปิดรับต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้าพื้นที่นำร่องภูเก็ตและสมุยโดยไม่ต้องกักตัว 2.เร่งรัดการจัดหาวัคซีนอย่างน้อย 70% ของจำนวนประชากรในพื้นที่นำร่อง เช่น ภูเก็ต และสมุย ภายในวันที่ 15 เม.ย.-30 มิ.ย.นี้ 3.พิจารณาให้เอกชนสามารถจัดหาวัคซีนได้อย่างเร่งด่วน

4.เร่งจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรภาคท่องเที่ยวและบริการเกือบ 1 ล้านคนทั่วประเทศภายในเดือน มิ.ย.2564 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว 5.ประกาศกรอบเวลาและเงื่อนไขที่ชัดเจนในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างน้อยในพื้นที่นำร่อง และ 6.พิจารณาอนุมัติใช้ IATA Travel Pass ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว สายการบิน และภาครัฐให้สามารถบริหารจัดการและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารรับรองผลตรวจหรือใบรับรองการรับวัคซีนโควิด-19

ด้าน รัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเกาะสมุยได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “สมุย วันเดอร์ ไอแลนด์” (Samui Wonder Island) เปิดเกาะสมุยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากักตัวและท่องเที่ยวตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.พิจารณา และได้รับการอนุมัติในหลักการแล้ว

“เราได้หารือกับทางนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์สแล้ว ว่าจะร่วมกันดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมากักตัวและท่องเที่ยวที่เกาะสมุย”

คาดว่าส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากตลาดระยะไกล (Long Haul) เช่น สหรัฐ ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์แล้วต่อเที่ยวบินของบางกอกแอร์เวยส์ตรงมายังเกาะสมุย โดยตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเดินทางเข้ามาวันแรกคือวันที่ 1 ก.ค.นี้ เบื้องต้นรองรับได้ 1,000 คนในช่วงสัปดาห์แรกเป็นการนำร่อง เนื่องจากปัจจุบันเกาะสมุยมีโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือกของรัฐ (ALSQ) จำนวน 10 แห่ง เพียงพอต่อเป้าหมายจำนวนคนดังกล่าว

ทั้งนี้ภาครัฐและเอกชนเกาะสมุยยังได้ร่วมกันจัดทำแผนรองรับและแผนเผชิญเหตุเรียบร้อย หากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อขึ้นมา สามารถรองรับผู้ป่วยได้สูงสุด 100 คน โดยแนวทางการปฏิบัติงาน (SOP) ทั้งหมดได้จัดทำเสร็จหมดแล้ว เหลือเพียงทาง สธ.เข้ามาตรวจสอบ และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาสำรวจเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวบนเกาะสมุย คาดว่ากระบวนการเหล่านี้จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ เพื่อให้ ททท.นำโครงการสมุย วันเดอร์ ไอแลนด์ ไปโปรโมทส่งเสริมการขายในช่วง 3 เดือนนับจากนี้ เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเกาะสมุยทันวันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

“สำหรับรายละเอียดของโครงการฯ วางกำหนดกักตัว 14 วันแบบผ่อนคลาย แบ่งเป็น 7 วันแรกให้อยู่ในโรงแรมและเส้นทางที่กำหนด กับ 7 วันหลังที่นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าการมากักตัวที่เกาะสมุย เหมือนไม่ได้กักตัว”

โดยวันที่ 1-2 นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าที่พักด้วยระบบปิดจากสนามบินจนถึงโรงแรมในเกาะสมุย และอยู่แต่ในห้องพักเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่จะเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 2 หากไม่พบเชื้อ สามารถท่องเที่ยวต่อได้ในวันที่ 3-7 โดยสามารถเดินทางไปในพื้นที่หรือเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น (Sealed Routes) ซึ่งมีให้เลือกหลายเส้นทางและโปรแกรม เช่น ล่องเรือคาตามารัน ชมพระอาทิตย์ตกดิน รับประทานอาหารบนเรือ กิจกรรมเชิงสุขภาพอย่างการทำสปาแบบไม่ใช้ของเหลว การทำโยคะ รวมถึงให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมพักผ่อนที่หาดส่วนตัว 2 จุด ได้แก่ หาดส่วนตัวบนเกาะแตน และหาดถ้ำร้างที่หมู่เกาะอ่างทอง ทั้งนี้ต้องไม่ปะปนกับคนในพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวคนไทย

และตั้งแต่วันที่ 8-14 นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนที่พักและท่องเที่ยวภายในเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จนถึงวันที่ 15 เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่จะเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้ออีกครั้ง หากไม่พบเชื้อ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดได้