การเมือง
เปิดหน้า "101ส.ส.ร่วมรัฐบาล"หนุนแก้มาตรา9ร่างพ.ร.บ.ประชามติ
หลังรัฐสภาเสียงข้างมาก โหวตชนะ กมธ.ร่างพ.ร.บ.ประชามติ จนเป็นเหตุให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า หากวาระสาม ถูกคว่ำ จะต้องเดิมพันกับสถานภาพรัฐบาล ล่าสุดผลคะแนนลงมติได้เปิดเผยออกมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ซึ่งพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งเป็นร่างกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอเข้าสู่รัฐสภา ในวาระสอง ตามที่กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ โดยที่ประชุมได้พิจารณาถึงหมวด 1 บททั่วไป มาตรา 9 ว่าด้วยหลักการให้การจัดออกเสียงประชามติ และควบคุมดูแลเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมาตราดังกล่าว กมธ.ฯ ได้แก้ไข โดยเพิ่มความว่าเสรี และเสมอภาค ไว้ในเนื้อหา
ทั้งนี้การพิจารณาวาระดังกล่าวมีเหตุให้ต้องเลื่อนการพิจารณาออกไปในการประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัยถัดไป ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 7-8 เมษายน หลังจากที่เสียงข้างมากของที่ประชุมรัฐสภา จำนวน 273 เสียง สนับสนุนให้มีการแก้ไขตามข้อเสนอของนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ต่อ 267 เสียงที่เห็นชอบกับกมธ.เสียงข้างมาก ส่งผลให้เนื้อหามาตรา 9 ถูกเพิ่มเติมเนื้อหา ซึ่งมีสาระสำคัญกำหนดกรอบและผู้ที่มีสิทธิ์ยื่นเรื่องให้ออกเสียงประชามติ ได้แก่ การออกเสียงเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ, การออกเสียงที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นว่ามีเหตุอันสมควร, การออกเสียงตามกฎหมายกำหนดล การออกเสียงตามที่รัฐสภาพิจารณาและลงมติและ การออกเสียยงกรณีที่ประชาชนเข้าชื่อต่อครม. ทั้งนี้ได้กำหนดบทยกเว้นห้ามทำประชามติ ในประเด็นที่ผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
และเมื่อร่างมาตรา 9 ถูกแก้ไข จำเป็นต้องแก้ไขในมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ มาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 14 มาตรา 15 และหมวดว่าด้วยบทกำหนดโทษ ทำให้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.ฐานะประธานกมธ.ฯ ขอให้ที่ประชุมเลื่อนการพิจารณาออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการลงคะแนนเสียง 273 ต่อ 267 ที่ห่างกันเพียง 6 เสียงนั้น พบว่าส่วนใหญ่เป็นของสมาชิกรัฐสภาซีกพรรคฝ่ายค้าน ทั้งนี้มีเสียงของส.ส.ในซีกของพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 101 คนที่ลงคะแนนสนับสนุนการแก้ไขเนื้อหาที่เสนอโดยนายชูศักดิ์ ประกอบด้วย ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ 2 เสียง คือ นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น , นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ขณะที่พบว่ามี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐจำนวน 34 คนไม่พบการออกเสียงลงคะแนน
พรรคภูมิใจเกือบทั้งพรรค จำนวน58 เสียง ยกเว้น 3 ส.ส.ที่ไม่ปรากฎการลงคะแนน คือ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคประชาธิปัตย์ 28 เสียง ยกเว้น นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง , นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา ที่ออกเสียงเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ส่วน 20 เสียงไม่พบการลงคะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวน 2 เสียง คือ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคเศรษฐกิจใหม่ 3 เสียง คือ นายภาสกร เงินเจริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้พบว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ประกาศสังกัดพรรคฝ่ายค้านได้ลงมติสนับสนุนด้วย , พรรคพลังท้องถิ่นไท 2เสียง คือ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี และ นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พรรคชาติพัฒนาทั้ง 4 เสียง รวมถึงส.ส.พรรคเล็ก อาทิ นงสงศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลเมืองไทย, นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่, นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย
ส่วนส.ว.ที่ลงมติเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย ยได้แก่ นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน, นายพิศาล มาณวพัฒน์ และ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา งดออกเสียง มี ส.ว. 77 คนไม่พบการออกเสียงลงคะแนน
ทั้งนี้กมธ. พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ได้นัดประชุมเพื่อหารือกันวันที่ 1-2 เมษายน เพื่อพิจารณาเนื้อหาที่ปรับให้สอดรับกับมาตรา 9 ที่มีการแก้ไข.