ระบบนิเวศสมบูรณ์ ‘เต่าตนุ-เต่ากระ’ แตกฟองลงสู่ 'ทะเลตรัง' มากกว่า 100 ตัวใน 1 เดือน

รวมแล้วในรอบ 1 เดือนนี้ มีเต่าตนุและเต่ากระฟักออกไข่ลงสู่ทะเลแล้วรวม 103 ตัว แสดงถึงระบบนิเวศทะเลตรัง ที่มีความสมบูรณ์

นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้รายงานความคืบหน้า ในการเฝ้าระวังไข่เต่าหลุมที่ 3 ซึ่งพบเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 นายสุชาติ เจะเหลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ได้แจ้งว่ามีชาวบ้านได้วิ่งเรือ ชื่อเรือหยดน้ำค้างผ่านไปบริเวณหาดทุ่งหญ้าคา ได้เห็นรอยเต่าทะเล ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะขึ้นมาวางไข่บริเวณหาดดังกล่าว เจ้าหน้าที่เขตฯ ลิบง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง และพี่น้องชาวเกาะลิบงได้ไปตรวจบริเวณริมหาดทุ่งหญ้าคา พบร่องรอยพายเต่าของแม่เต่า ความกว้างประมาณ 80 ซม จึงได้ตรวจสอบพบว่าเต่าได้ขุดหลุมจำนวน 1 หลุม เจ้าหน้าที่จึงได้ขุดหลุมพบว่ามีไข่เต่า ประมาณ 100 ฟอง

จากนั้นเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้นำวัสดุทำคอกล้อมรังไข่เต่าไว้ เพื่อให้ปลอดภัยจากภัยคุกคาม และจัดเจ้าหน้าที่เวรยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าไข่จะฝักเป็นตัว ประมาณ 50 -60 วัน และล่าสุด ในภาคเช้าของวันที่ 18 มีนาคมเจ้าหน้าที่เวรยามเฝ้าระวังไข่เต่าหลุมที่ 3 รายงานว่ามีลูกเต่าออกจากไข่ จำนวน 1 ตัว และคลานออกมา

ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่นำไปปล่อยลงทะเล พร้อมกับเฝ้าระวังไข่เต่าที่เหลือ ปรากฏว่า เจ้าเต่าน้อยตัวดังกล่าวก็ว่ายน้ำกลับมาเข้าฝั่ง ปล่อยหลายครั้งก็ว่ายกลับเข้ามาทุกครั้ง จึงนำมาเลี้ยงไว้ เพราะเชื่อว่าเต่าน้อยตัวแรกคงรอพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ปรากฏว่า ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ที่มีหัวหน้าเขตฯ ลิบง เจ้าหน้าที่เขตฯ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และพี่น้องชาวบ้านเกาะลิบงร่วมกันเฝ้าและติดตามด้วยใจจดจ่อ ก็พบไข่เต่าได้แตกเป็นตัวอีก 19 ตัว รวมลูกเต่า จำนวน 20 ตัว ออกมาจากรัง รวมระยะเวลาของการฟักไข่ จำนวน 56 วัน จากนั้นในเวลาใกล้ค่ำเจ้าหน้าที่จึงได้นำลูกเต่าปล่อยลงทะเล เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งเต่าน้อยตัวแรก ก็ยอมลงทะเลไปเพื่อนๆฝูงเดียวกัน และไม่กลับเข้าฝั่งมาอีกเลย

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเต่ากระ ซึ่งเป็นภาพแห่งความน่ารักและน่าประทับใจกับเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ร่วมสังเกตการณ์เป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นหลุมแรกที่เป็นเต่ากระ โดย 2 หลุมที่ผ่านมาเป็นเต่าตนุ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่ายังคงมีไข่เต่ากระอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ฟักเป็นตัว เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าระวัง ต่อไป รวม 3 หลุม ทั้งเต่าตนุและเต่ากระ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจนฟักออกเป็นตัวลงสู่ทะเลได้สำเร็จเป็นครั้งแรกรวม 103 ตัว

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของทะเลตรัง ที่เจ้าหน้าที่พบไข่เต่าตนุ และเต่ากระ เฝ้าระวังจนฟักออกเป็นตัวจนออกสู่ทะเลให้เห็นด้วยตาเปล่า เพราะที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็น โดยพบเห็นแต่ปริมาณเต่าในทะเลตรังที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นมากเท่านั้น โดยหากมีการนั่งเรือในทะเลตรัง ทั้งในบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม นักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นเต่าตนุจำนวนมาก มักโผล่ขึ้นมาให้ได้พบเห็นเป็นประจำและจำนวนมาก จนคุ้นชินตา แต่ไม่เคยมีการพบเห็นลูกเต่าตนุฟักออกเป็นตัว และช่วยเหลือจนปลอดภัยลักษณะนี้มาก่อน จึงสร้างความตื่นเต้นให้แก่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลตรัง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก และมรดกอาเซียน