เชียงใหม่ แชมป์หมอกควันเช้าวันนี้อีกครั้ง อันดับ 1 อากาศแย่ที่สุดในโลก

หมอกควัน เชียงใหม่ ทวงแชมป์ เช้าวันนี้กลับมาอยู่อันดับ 1 อากาศแย่ที่สุดในโลกอีกครั้ง ตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันพิษ PM 2.5

เช้าวันนี้เวลา 08.00 น. (11มี.ค.) เว็บไซต์ Air Visual จัดอันดับคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ สภาพอากาศแย่เป็นอันดับที่ 1 ของโลก หลังจากที่วานนี้ร่วงตกไปอยู่อันดับที่ 3 โดยวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศวันนี้ อยู่ที่ 240 US AQI อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นไปยังจุดชมวิวของดอยสุเทพ ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางขึ้นไปชมความสวยงาม ทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ แต่วันนี้เมื่อมองลงมาด้านล่างก็พบว่าทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำมาก โดยสังเกตเห็นหมอกควันสีขาว หรือฝุ่นพิษ PM 2.5 ขาวโพลนปกคลุมเมืองเชียงใหม่เต็มไปหมดนอกจากนี้ในช่วงเช้าประชาชนส่วนหนึ่งที่ต้องออกมาทำกิจกรรมออกกำลังกาย ต้องสวมหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เพื่อ ป้องกันสุขภาพจากฝุ่นควันที่ปกคลุมในพื้นที่อย่างหนาแน่นในขณะนี้

ศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไข ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานผลการตรวจสอบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าวันนี้(11มี.ค.) เกิดจุดความร้อนทั้งหมด 122 จุด โดยเกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวน 83 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 33 จุด เขต สปก 3 จุด และชุมชนอื่นๆอีก 3 จุด

ส่วน ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ทั้ง 3 สถานี คือ สถานี ต.ช้างเผือก ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ และ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม วัดค่า Pm 2.5 ได้ 112-129 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟป่าหลังจากได้รับการร้องขอจากนายอำเภอหางดง ว่าเกิดไฟป่าบริเวณ บ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง ทางด้านทิศใต้ของดอยสุเทพ จนท.ดับไฟภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าระงับไฟดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงชัน จึงได้ใช้โดรนตรวจการไฟป่าชี้จุดให้กับเฮลิคอปเตอร์ ก่อนให้เฮลิคอปเตอร์บินทิ้งน้ำดับไฟ จำนวน19เที่ยวบิน ใช่น้ำไปจำนวน 57,000 ลิตร

นอกจากนี้ เมื่อคืนที่ผ่านเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าห้วยฮ่องไคร้-ขุนแม่กวง ได้เข้าไปดับไฟป่าที่บริเวณป่าบริเวณ ทิศเหนือบ้านแม่หวาน (พื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้) ท้องที่บ้านแม่หวาน ม.3 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยพบว่าป่าที่ถูกไฟไหม้นั้นเป็นป่าเต็งรัง สาเหตุมาจากการเข้าป่ามาเพื่อล่าสัตว์และเผาป่า ได้รับความเสียหายทั้งหมด 12 ไร่ ซึ่งสาเหตุ การเกิดไฟป่า และหมอกควันที่ปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดข้างเคียง มาจากชาวบ้านเข้าไปหาของป่าและจุดไฟเผาป่า และประเทศเพื่อนบ้านจุดไฟเผาป่าถูกลมพัดพา เข้ามายังพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ แม้ว่าทางจังหวัดเชียงใหม่จะมีคำสั่งปิดป่าและห้ามเผาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนแล้วก็ตาม