ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวรับ 1542 / 1535 จุด แนวต้าน 1560 / 1567 จุด แนะนำ เก็งกำไร ERW DELTA SYNEX ทางเทคนิคเริ่มเข้าเขต Overbought Area และจะเกิดสัญญาณขาย หากหลุดแนวรับหลัก 1530 จุด ปัจจัยบวก คือ โมเมนตัมบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว หลังรัฐบาลเตรียมออกมาตรการผ่อนคลายและกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม และคาดสภาสหรัฐฯ ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสนอโดยประธานาธิบดีไบเดนวันนี้ อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยอาจแย่กว่าภูมิภาคเอเชียเหนือ ที่ได้อานิสงส์จากแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังตลาดหุ้น Nasdaq วานนี้พุ่งขึ้นกว่า 3.6% รับข่าวดีค่าเงิน USD และยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาวกลับมาอ่อนตัว ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ และจีน

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) คาดหุ้นเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ หลังวานนี้ยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ กลับมาอ่อนตัว ช่วยหนุนตลาดหุ้น Nasdaq ฟื้นตัวแรง 3.6% (+กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์)

       2) คาดสภาสหรัฐฯ โหวตผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ (เลื่อนจากวานนี้) ส่งผลบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

       3) รายงานเงินเฟ้อของจีนและสหรัฐฯ จะส่งผลเชิงลบต่อตลาด หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์มาก

       4) Ex-Dividend วันนี้ คาดว่าจะมีผลกระทบต่อดัชนีฯ -1.16 จุด BDMS 0.55 บาท EGCO 3.50 บาท BH 2.05 บาท

       5) รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายเกณฑ์ควบคุมใหม่ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ลดลง พร้อมออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

เศรษฐกิจวันนี้

China-รายงาน CPI เดือน ก.พ. คาด +0.4% MoM, -0.4% YoY (Vs เดือน ม.ค. 1% MoM, -0.3% YoY), PPI เดือน ก.พ. คาด +1.5% YoY (Vs เดือน ม.ค. +0.3% YoY) / USA CPI เดือน ก.พ. คาด +0.4% MoM, 1.7% YoY (Vs เดือน ม.ค. 0.3% MoM, 1.4% YoY) Core CPI เดือน ก.พ. คาด 0.2% MoM, 1.4% YoY (Vs เดือน ม.ค. 0% MoM, 1.4% YoY) / USA รัฐเท็กซัสเริ่มผ่อนคลายให้ทุกธุรกิจเปิดได้ 100% และไม่ต้องสวมหน้ากาก

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบ 1537-1554 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1550.59 จุด +6.83 จุด +0.44% วอลุ่ม 9.92 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มบรรจุภัณฑ์ -2.95% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -0.89% ส่วนกลุ่มนำขึ้น คือ การแพทย์ +2.48% เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +2.24% หุ้นบวก >4% JKN HMPRO WHA SYNEX DTAC BH AMATA BEC AAV NCAP DIF ERW หุ้นร่วง >4% EPG THCOM FPI

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวกแรง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวก DJ +0.1% (+ 30.30 จุด) S&P500 +1.42% Nasdaq +3.69% โดยได้รับผลบวกจากยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี อ่อนตัวลงสู่ระดับ 1.526% วานนี้ (จาก 1.58% เมื่อวันศุกร์) และสภาคองเกรสเตรียมอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ ส่งผลต่อการซื้อคืนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยวานนี้ปรับขึ้น +3.4% นำโดย Tesla +19.6% และกลุ่ม FAANG ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่อง DAX +0.40% CAC40 +0.37% FTSE +0.17% รับข่าวดียิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ อ่อนตัว และแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

+/- น้ำมันร่วง แต่ทองฟื้น: ราคาน้ำมันดิบโลกกลับมาปิดลบ WTI -USD1.04 ปิดที่ USD64.01/บาร์เรล Brent -USD0.72 ปิดที่ USD67.52/บาร์เรล จากแรงขายทำกำไร ก่อนสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบ (คาดเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำกลับมาฟื้นตัว +USD38.90 ปิดที่ USD1,716.90/ออนซ์ หลังจากค่าเงิน USD กลับมาอ่อนค่าและแรงซื้อเก็งกำไร หลังราคาร่วงแรงในช่วงที่ผ่านมา

ประเด็นสำคัญ

+ EU: ประธานอีซี เผยอียูจะได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 จำนวน 100 ล้านโดสต่อเดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นไป

- Ex-Dividend Effect: การขึ้นเครื่องหมาย XD ของบจ. มีผลต่อดัชนีฯ วันพุธ -1.16 จุด BDMS 0.55 บาท EGCO 3.50 บาท BH 2.05 บาท

+ Opportunity Day: วันนี้ BAM TVO CENTEL TOA L&E SSP CPF

+ USA: การโหวตของสภาผู้แทนราษฎรเลื่อนเป็นเช้าวันนี้ตามเวลาในสหรัฐฯ เพราะทางสภาผู้แทนเพิ่งได้รับเอกสารที่ได้รับการอนุมัติแล้วจากวุฒิสภา

+ USA/ธุรกิจการบิน: จำนวนผู้โดยสารสายการบิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีจำนวนสูงถึง 1.23 ล้านราย ส่งผลให้สะสมทั้งสัปดาห์อยู่ที่ 7.1 ล้านราย ดีสุดเป็นอันดับสองในปีนี้

+ USA: รมว.คลัง Yellen เผยว่า รัฐบาลมีเครื่องมือในการดูแลอัตราเงินเฟ้อ แม้จะปรับสูงขึ้น จากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของไบเดน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TOP PTTGC KBANK

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ERW DELTA SYNEX

Derivatives: ถือ Long S50H21 เพื่อรอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)