'บิ๊กโจ๊ก' สุรเชษฐ์ หักพาล ก้าวที่ตกอับ สู่ก้าวที่รุ่งโรจน์

'บิ๊กโจ๊ก' สุรเชษฐ์ หักพาล ก้าวที่ตกอับ สู่ก้าวที่รุ่งโรจน์

เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า อายุราชการที่เหลืออยู่เกือบ 10 ปี กับ เสถียรภาพรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์" ที่อยู่ทน อยู่ยาว จะทำให้สถานะของ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขยับจาก ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก้าวพรวดพราด ขึ้น "เบอร์หนึ่ง" ปทุมวันหรือไม่

ในช่วงเฟื่องฟู 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยถูกจับตาจะได้เป็น 'ผบ.ตร.' ที่อายุน้อยที่สุด หลังเติบโตในหน้าที่การงานแบบ Fast track แซงหน้ารุ่นพี่ชนิดที่เรียกว่าไม่เห็นฝุ่น

นับตั้งแต่ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการประจำสำนักงาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่งเป็นเบอร์หนึ่งปทุมวัน เมื่อ 23 ก.ค. 2558 ทำหน้าที่ประสานงานกับนายกรัฐมนตรี และสายตรง  พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำกับดูแล สตช.ในขณะนั้น

เวลาเพียง2เดือนกว่าๆ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ขยับขึ้นเป็น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เมื่อ 30 ต.ค. 2558 และช่วย 'พล.อ.ประวิตร' ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ , ทัวร์ศูนย์เหรียญและปัญหาหนี้ระบบ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ด้วยคุณลักษณะพิเศษของ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ที่สามารถทำงานกับฝ่ายการเมืองได้ทุกพวก ทุกกลุ่มตามสมญานาม 'โจ๊ก หวานเจี๊ยบ' อยู่ใกล้ใคร ใครก็รักและให้ความเมตตา บวกกับผลงานที่เข้าตากรรมการ จึงได้เป็นน้องรัก 'พล.อ.ประวิตร' อีกคน

'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' กลายเป็นเงาตามตัว'พล.อ.ประวิตร' ที่คอยติดตามลงพื้นที่ไปปฏิบัติงานทุกหนทุกแห่ง ควบคู่ไปกับการเติบโตในหน้าที่การงานแบบปีต่อปี โดย 1 ต.ค. 2559 ได้ขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
 

วันที่ 6 ก.ย. 2560 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' เข้ามาทำหน้าที่รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จนได้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในวันที่ 1 ต.ค. 2560 และ  1 ต.ค. พ.ศ. 2561 ได้รับการเลื่อนขั้นเป็น 'พลตำรวจโท'จนถูกแต่งตั้งเป็น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการที่อายุน้อยในวัยเพียง 48 ปี

เส้นทางเติบโต 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' มาสะดุดหลัง' พล.อ.ประยุทธ์'  มีคำสั่งโอนให้ไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิมใน สตช. เมื่อ 9 เม.ย.2562 

โดย 'พล.อ.ประยุทธ์'ไม่เคยเอ่ยถึงสาเหตุที่แท้จริงของคำสั่งฟ้าฝ่าครั้งนี้ ในขณะ 'พล.อ.ประวิตร'ก็เหมือนน้ำท่วมปาก เพราะนอกจากจะไม่สามารถช่วยเหลือ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ได้แล้ว ยังหลุดจากเก้าอี้ 'รมว.กลาโหม' และ การกำกับดูแล 'สตช.' ในช่วงปรับ ครม. กลางเดือน ก.ค. 2562

โอกาสจะกลับเข้ามาใน สตช.ของ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ที่มืดมนอยู่แล้วหลัง 'พล.อ.ประยุทธ์'เข้ามากำกับดูแล สตช.กลับยิ่งมืดมิดลงไปอีกเมื่อไปเปิดศึกกับ  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ต่อกรณีถูกลอบยิงรถหรู 

กลายเป็นสาเหตุทำให้'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ออกมาเปิดเผยข้อมูลความไม่ชอบมาพากล ในโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจสอบและพิสูจน์อัตลักษณ์ (ไบโอแมทริกซ์) และโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถตรวจการณ์ไฟฟ้า ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) 

จน 'พล.อ.ประยุทธ์' ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ให้ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ขาดจากการเป็นข้าราชการตำรวจ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรอบอัตรากำลัง ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งออกคำสั่ง ให้รักษาจรรยาบรรณ ไม่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ข้ามหัวผู้บังคับบัญชา

ข่าวคราว 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' เงียบหายไปช่วงหนึ่งก่อนปรากฎภาพ อุปสมบท เพื่อทดแทนบุญคุณ บิดา มารดา ที่วัดไทยในพุทธคยา ประเทศอินเดียเมื่อต้นปี 2563 ท่ามกลางกระแสข่าวหวนคืน สตช.เป็นระยะ

ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำ สบน. โดยรับผิดชอบข้อเสนอแนะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการร้องทุกข์จากประชาชน ควบคู่ไปกับยื่นฟ้อง 'พล.อ.ประยุทธ์' ต่อศาลปกครอง กรณีออกคำสั่งย้ายโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อนถูกศาลตีตกไม่รับคำฟ้อง

จากคำสั่งฟ้าผ่าโอน 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ออกจาก สตช. เมื่อ  9 เม.ย.2562 สู่ข่าวดี ในวันที่ 9 มี.ค.2564 หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ให้กลับมาดำรงตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"ไม่ใช่เรื่องการลงนาม เป็นเรื่องของกฎหมาย และเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะเสนอชื่อมายังนายกฯ เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติ ก็ส่งกลับไปสอบต่อ ส่วนที่พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เคยฟ้องร้องศาลปกครองว่าออกคำสั่งย้ายโอนไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกันและไม่มีปัญหา" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุก่อนจะไล่ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่นักข่าวอย่างอารมณ์ดี

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเปิดตำแหน่ง ผู้ช่วย.ผบ.ตร.เพื่อรองรับ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' กลับเข้ามาเป็นตำรวจอีกครั้ง ควบคู่กับเปิดตำแหน่ง ผบช.อีก 4 ตำแหน่ง เพื่อรองรับนายตำรวจกลุ่มที่ถูกโยกย้ายการแก้ไขปัญหาบ่อนในพื้นที่ ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด และ ตำแหน่ง ผบก.อีก 4 ตำแหน่ง

ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าอายุราชการที่เหลืออยู่เกือบ 10 ปี กับ เสถียรภาพรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ทน อยู่ยาว จะทำให้สถานะของ 'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์'ขยับจาก ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก้าวพรวดพราด ขึ้นเบอร์หนึ่งปทุมวันหรือไม่