'แอตต้า' ชี้เปิดประเทศหนุนจีดีพีโต! แรงงานท่องเที่ยว 1 ล้านคนคืนตลาด

'แอตต้า' ชี้เปิดประเทศหนุนจีดีพีโต! แรงงานท่องเที่ยว 1 ล้านคนคืนตลาด

สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายและปัจจัยวัคซีนเป็นสัญญาณบวกของรัฐบาลพิจารณาแนวทาง “เปิดประเทศ” ให้ชาวต่างชาติทยอยเข้ามาเที่ยวไทย ปักหมุดเดือน มิ.ย.นี้ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) คาดทำให้ปี 2564 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 8 ล้าน

วิชิต ประกอบโกศล นายกแอตต้า กล่าวว่า คาดการณ์ดังกล่าวจะหนุนจีดีพีประเทศไทยปีนี้ขยายตัว 4% ตามที่ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตั้งเป้าหมาย  จุดสตาร์ท! เดือน มิ.ย.เริ่มดึงต่างชาติเข้ามาได้ 2-3 แสนคน ก่อนทยอยเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค.เดินทางเข้ามา 5 แสนคน เดือน ส.ค. 8 แสนคน เดือน ก.ย. 1 ล้านคน เดือน ต.ค. 1.5 ล้านคน เดือน พ.ย. 2 ล้านคน และเดือน ธ.ค.เข้ามามากถึง 2.5 ล้านคน เพราะเป็นช่วงพีคซีซั่น ผู้คนอัดอั้นหลังไม่ได้เที่ยวต่างประเทศนานเกือบ 2 ปี

แต่หากเริ่มเปิดประเทศเดือน ก.ค. คาดมีชาวต่างชาติเที่ยวไทย 6 ล้านคน และเปิดประเทศล่าช้าเป็นเดือน ต.ค. จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไม่เกิน 3 ล้านคน!

“ภาคเอกชนมองว่าควรเริ่มเปิดประเทศภายในเดือน มิ.ย.นี้ เพราะแม้ห่างจาก ก.ค.แค่เดือนเดียว แต่นั่นหมายความว่ารายได้ท่องเที่ยวไทยจะหายไป จากปกติเคยได้เฉลี่ยเดือนละ 2 แสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านคน และเมื่อเริ่มเปิดประเทศแล้ว ต้องใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ”

ทั้งนี้รัฐบาลต้องระบุไทม์ไลน์ให้ภาคเอกชนรับทราบล่วงหน้า 3 เดือน หากตัดสินใจเปิดประเทศภายในเดือน มิ.ย.นี้ ต้องแจ้งล่วงหน้าภายในเดือน เม.ย. เพื่อจัดเตรียมสินค้าท่องเที่ยวและเริ่มการขาย พร้อมติดต่อกับสายการบินอีกครั้ง หลังจากประเทศไทยไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเกือบ 1 ปี รายได้การท่องเที่ยวหายไปถึง 2 ล้านล้านบาท

“หากรัฐบาลปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เศรษฐกิจไทยจะไปไม่รอด เสียทั้งโอกาสและรายได้ คนจะตกงานมากขึ้น”

โดยภาพรวมแรงงานภาคท่องเที่ยวที่เคยมีอยู่ 4 ล้านคน ปัจจุบัน ตกงานแล้ว 1 ล้านคน ส่วนกลุ่มแรงงานที่ต้องหยุดงาน ลาหยุดแบบไม่ได้รับค่าจ้าง และต้องสลับสับเปลี่ยนชั่วโมงการทำงานมีอยู่ 2 ล้านคน ด้านกลุ่มที่ยังทำงานเต็มเวลามี 1 ล้านคน

การเปิดประเทศจะทำให้แรงงานภาคท่องเที่ยวทยอยกลับมาทำงานแบบเต็มเวลา 1 ล้านคน ทั้งจากกลุ่มที่ต้องหยุดงานชั่วคราว และกลุ่มตกงานถาวรซึ่งจะได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม ห้องอาหาร การบิน มัคคุเทศก์ และพนักงานที่ให้บริการตามแหล่งท่องเที่ยว

แอตต้า คาดการณ์ด้วยว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะใช้เวลา 3 ปีนับจากนี้ หรือปี 2566 จะฟื้นตัวกลับมา 100% เท่าปี 2562 ก่อนวิกฤติโควิด-19 หรือดีกว่าด้วยซ้ำ! ขณะที่ปี 2564 จะฟื้นตัว 15-20% คิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6-8 ล้านคน ขึ้นกับว่าเปิดประเทศเดือน มิ.ย.หรือ ก.ค. ส่วนปี 2565 คาดฟื้นตัว 70%

“ระหว่างนี้อยากเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจังของภาครัฐเพิ่มจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคผ่านโครงการคนละครึ่ง เราชนะ และเราเที่ยวด้วยกัน”

ยุคหลังโควิด-19 ธุรกิจท่องเที่ยวต้องปรับตัว ทำธุรกิจแบบเดิมๆ ไม่ได้ ต้องเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อย่างธุรกิจโรงแรม เดิมมีห้องอาหารนานาชาติจำนวนมาก ต่อไปจะทำห้องอาหารแค่อำนวยความสะดวกเบื้องต้น เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ขนาดกลุ่มจะเล็กลง เลือกใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก อาหารโรงแรมจะไม่จำเป็น เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงที่พักจะดูร้านเป้าหมายจากสมาร์ทโฟน ร้านแนะนำ หรือร้านดังที่น่าสนใจ เพื่อออกไปสัมผัสร้านต่างๆ ด้วยตัวเอง

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร จากนี้ต้องมีเมนูที่มีส่วนผสมของกัญชง-กัญชา อนาคตธุรกิจกัญชาเพื่อการท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างมาก เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยทุกคนอยากสัมผัสสินค้าและรสชาติอาหารจากพืชเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน! เพราะกว่าจีนจะเปิดเสรีกัญชง-กัญชา คาดไม่ต่ำกว่า 5-10 ปี นอกจากนี้ “เพื่อนบ้าน” หลายประเทศไม่มีจุดขายเรื่องนี้ ถือว่าไทยมาถูกทาง