วายแอลจีเตือน'ราคาทอง' เสี่ยงปรับฐานต่อหลังหลุด 1,700 เหรียญ

วายแอลจีเตือน'ราคาทอง' เสี่ยงปรับฐานต่อหลังหลุด 1,700 เหรียญ

วายแอลจีเผย"ราคาทอง"ในระยะกลางมีสัญญาณแกว่งตัวลง หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแกร่ง หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่ แนะจับตาสัญญาณเทคนิค หากทองกลับไปยืน 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ไม่ได้ยังเสี่ยงปรับฐานต่อ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า  ในช่วงต้นเดือน มีนาคม ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีคาดว่าในระยะสั้นจะมีแรงขายสลับกับการเข้าซื้อกลับ โดยในช่วงราคาที่ปรับลงมาสู่ระดับต่ำจะมีแรงซื้อทองคำกายภาพจากผู้ผลิตเครื่องประดับ  รวมถึงแรงซื้อจากผู้บริโภคในเอเชียทั้งอินเดียและจีนเข้าซื้อทองคำแท่งซึ่งช่วยหนุนให้ราคาฟื้นตัวขึ้นเป็นระยะ

สำหรับการปรับลดลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ  ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ปรับขึ้น  อีกทั้งเรื่องความคืบหน้าของวัคซีนต้าน COVID-19 ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดราคาทองคำให้ลดลง อย่างไรก็ดีในส่วนของปัจจัยบวกนั้นก็ยังมีสลับเข้ามาเป็นระยะ  โดยเฉพาะแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ รวมถึงเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE ต่อไปในการประชุมช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้  จึงทำให้คาดการณ์ว่าในระยะสั้นราคาทองคำจะมีแรงดีดกลับสลับได้ แต่ในระยะกลางยังเป็นการแกว่งตัวลดลง

อย่างไรก็ตามจะดูว่าเทรนด์ทองคำเป็นขาลงแล้วหรือไม่ ในส่วนของสัญญาณทางเทคนิคมีจุดที่ต้องจับตาคือ ถ้ารอบนี้ราคาทองคำไม่สามารถดีดกลับขึ้นไปยืน 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้ และปรับตัวต่ำกว่า 1,675-1,660 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นขาลง แต่ถ้ารอบนี้กลับขึ้นไปยืน 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ยังมีโอกาสลุ้นเทรนด์พลิกกลับหากราคาทองคำผ่าน 1,776 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ไปได้ ราคาก็จะกลายเป็นเทรนด์ขาขึ้นได้อีกรอบ