SCB ลุ้น PACE คืนหนี้ก้อนแรกต้นปีหน้า

SCB ลุ้น PACE คืนหนี้ก้อนแรกต้นปีหน้า

ไทยพาณิชย์หวังได้เงินชำระหนี้ก้อนแรกจาก “เพซ” 5 พันล้านต้นปีหน้า หลังคอนโด นิมิตหลังสวนเสร็จ-โอนให้ลูกค้าต้นปีหน้า พร้อมเร่งพลิกฟื้นธุรกิจดีน แอนด์ เดลูก้า ชู ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปีนี้โตต่อ10-12% พร้อมไพรเวทแบงกิ้ง แตะ สู่1ล้านล้านใน2ปี

161487844028      นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า กระบวนการแก้ไขหนี้ ให้ กับ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ล่าสุดเมื่อต้นปี มีคำสั่งจากศาลล้มละลายกลาง ให้ธนาคารไทยพาณิชย์ ปล่อยสินเชื่อให้กับ PACE เพิ่มอีก 1,500 ล้านบาท เพื่อให้นำเงินดังกล่าวไปใช้ก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม ‘นิมิต หลังสวน’ ให้แล้วเสร็จ เพื่อโอนให้ลูกค้า และนำเงินที่ได้จากการโอนคอนโด นำมาชำระหนี้คืนกับธนาคารในอนาคต

     ทั้งนี้คาดว่า PACE น่าจะก่อสร้างเสร็จ และโอนคอนโดให้ลูกค้าได้ภายในต้นปีหน้า และสามารถนำเงินมาชำระเงินคืนเงินกู้ให้กับธนาคารก้อนแรกได้ ภายในต้นปีหน้าเช่นกัน ราว 5 พันล้านบาท จากวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยไปทั้งหมดกว่า 1หมื่นล้านบาท

    นอกจากนี้ในส่วนของ บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ (D&D Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PACE ที่ล่าสุดธนาคารได้เข้าถือหุ้นใน โดยผ่านกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนราว 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด หลังจากนี้ธนาคารจะเร่งเข้าไปปรับโครงสร้างธุรกิจรวมถึงแผนการทำธุรกิจในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจกลับมาฟื้นและสร้างการเติบโตในอนาคตได้มากขึ้น

     “เชื่อว่า ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก เพราะยังเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรได้ แต่ธุรกิจนี้พึ่งพานักท่องเที่ยวเยอะ ดังนั้นยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ส่วนการปรับโครงสร้างธุรกิจเรามีหลายแนวทางซึ่งจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด”

     สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตรวมอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งราว 90% ส่วนใหญ่ยังอยู่ในมาตรการช่วยเหลือของธนาคาร เช่นพักหนี้

     แต่หากครบกำหนดพักหนี้ในมิ.ย. แล้วลูกค้าไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ธนาคารก็จะพิจารณาในการให้การช่วยเหลือต่อไป เป็นรายกรณีๆ แต่เชื่อว่ากลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำ เพราะก่อนเกิดโควิด-19 กลุ่มนี้ถือเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ และหากดูด้านหลักทรัพย์ค้ำประกันถือว่าคุ้มมูลหนี้ เพราะที่ผ่านมาธนาคารมีการปล่อยกู้หรือให้ LTV เพียงระดับ 40-60% ของหลักทรัพย์เท่านั้น ดังนั้นเชื่อว่ากลุ่มนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเชิงคุณภาพหนี้

ส่วนภาพรวมการเติบโตด้านสินเชื่อของธนาคารปีนี้ตั้งเป้าโต 3-5% เนื่องจากคาดภาคธุรกิจ และรายย่อยที่ยังมีความต้องการสินเชื่อ ส่วนธุรกิจอื่นๆของธนาคารปีนี้ คาดว่ายังเติบโตที่ดี เช่น รายได้จากธุรกิจประกัน ที่คาดโตต่อปีนี้ราว 20% รวมถึงธุรกิจ

เวลธ์ ที่จะเป็นตัวหนุนการเติบโตให้กับธนาคาร ต่อเนื่อง

    นายสารัชต์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจ บริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) คาดว่าปีนี้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ราว 10-12% ในแง่ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร หรือ AUM จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 2ล้านล้านบาท

    ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนี้ คาดโตได้กว่า 20% จากความต้องการลงทุนภายใต้ดอกเบี้ยต่ำของลูกค้าที่มากขึ้น รวมถึงฐานลูกค้าของไทยพาณิชย์ที่มีกว่า 16 ล้านราย และมีเงินฝากติด 1ใน3ของประเทศ ที่จะเป็นตัวหนุนให้ธุรกิจมั่งคั่งเติบโตได้ต่อเนื่อง

    ในส่วนของธุรกิจไพรเวทแบงกิ้งธนาคาร ตั้งเป้า ภายใต้ 2 ปี ธนาคารน่าจะมีAUM แตะ 1ล้านล้านบาท และขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของตลาดได้ จากปัจจุบันที่มีAUM ราว 8.5 แสนล้านบาท