เตรียมความพร้อม เทศกาลสงกรานต์

เตรียมความพร้อม เทศกาลสงกรานต์

ขณะนี้เริ่มฉีดวัคซีนโควิดในไทยแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ออกมาส่งสัญญาณจะมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และอาจอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์ นับเป็นข่าวดี แต่การพิจารณาควรทำอย่างระมัดระวัง ทยอยผ่อนคลาย เลยกลางเดือน มี.ค.ไปแล้ว ค่อยไฟเขียวให้จัดงานก็ยังไม่สาย

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดแผนและเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับคนไทย แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 วัคซีนปริมาณจำกัด วัตถุประสงค์เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคและเพื่อรักษาระบบสุขภาพของประเทศ กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์ บุคคลที่มีโรคประจำตัว โรคอ้วน และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กับระยะที่ 2 วัคซีนมากขึ้นและเพียงพอ วัตถุประสงค์เพื่อรักษาเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของประเทศ กลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว แรงงานในภาคอุตสาหกรรม และประชาชนทั่วไป

พื้นที่เป้าหมายการฉีดในระยะเร่งด่วนช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.2564 กระจายใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ที่มีการพบการติดเชื้อต่อเนื่อง กล่าวโดยสรุปแผนการกระจายวัคซีนช่วงแรกอยู่ที่ 2 ล้านโดส ระยะถัดไปอีก 61 ล้านโดส โดยระยะถัดไปเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน มิ.ย. ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี ตัวแปรที่อาจจะทำให้เปลี่ยนแผนคือการกลายพันธุ์และอัตราการติดเชื้อที่ขณะนี้มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง หากเป็นไปตามแผนดังกล่าวการคลายล็อกให้กลับมาใช้ชีวิตปกติ จะเกิดขึ้นภายในปี 2564

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาส่งสัญญาณจะมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และอาจอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์ในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการหารือว่าจะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง จะปลดล็อกคลายล็อกบางอย่างหรือปลดล็อกทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวประกอบกับได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวนหนึ่ง กลายเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงในวงกว้างทั้งภาครัฐและประชาชน

สำหรับผู้ประกอบการถือเป็นข่าวดี วันนี้ประเทศมีความจำเป็นในการกระตุ้นการบริโภคภายใน เพื่อปลุกกำลังซื้อจะกลับมาคึกคัก ถ้าให้ดีต้องเปิดประเทศเพื่อให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยว อย่างที่ภาคธุรกิจเสนอให้รัฐบาลพิจารณา เราเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็น แต่ในการป้องกันโรคก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เราเชื่อว่าประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจในช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มแพทย์ จะวางแผนให้รัฐบาลทั้งสกัดการแพร่เชื้อและฟื้นเศรษฐกิจไปด้วยได้ แต่การอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์ในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ โดยไร้เงื่อนไข ยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ในประเทศไทย กิจกรรมในวันสงกรานต์ไม่เพียงแต่รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ยังมีการละเล่น มีมหรสพ งานรื่นเริงแบบข้ามวัน โดยเฉพาะในสถานบันเทิงยามค่ำคืน มีการเล่นสาดน้ำแบบสุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสและการแพร่เชื้อ เมื่อผนวกกับการกระจายวัคซีนที่ยังไม่ครอบคลุมในช่วงกลางเดือน เม.ย. ดังนั้นการพิจารณาสถานการณ์โควิด-19 อย่างระมัดระวัง แบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ แล้วทยอยผ่อนคลายมาตรการ เมื่อเลยกลางเดือน มี.ค.ไปแล้ว ค่อยไฟเขียวให้จัดงานสงกรานต์ก็คงยังไม่สาย