ผลสอบถุงมือยางมัด ‘รุ่งโรจน์’ ผิดวินัยร้ายแรง

อคส.เรียก “พ.ต.อ.รุ่งโรจน์” และพวกอีก 2 คน รับฟังข้อกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรงวันนี้ หลังคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสรุปผลสอบ ให้เวลา 15 วันแก้ข้อกล่าวหา ก่อนตั้งคณะกรรมการเอาผิดทางวินัยพร้อมเรียกชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

ความคืบหน้ากรณีทุจริตโครงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาทขององค์การคลังสินค้า ล่าสุดคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่มีพ.ต.อ.สุรพงษ์ เปล่งขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ อคส. เป็นประธาน ได้สรุปผลการสอบสวนแล้ว และจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 รายมารับฟังข้อกล่าวหาวันนี้ และจะส่งสำนวนการสืบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อใช้ประกอบการไต่สวนคดีนี้

สำหรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย คือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. และเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร 8 อีก 2 ราย

สำหรับข้อกล่าวหาที่จะแจ้งต่อทั้ง 3 ราย คือ มีความผิดวินัยร้ายแรง เพราะในการจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ ทั้ง 3 รายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงยังได้เอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชน จนทำให้อคส.เกิดคามเสียหายร้ายแรง เพราะได้จ่ายเงินค่ามัดจำซื้อถุงมือยาง 2,000 ล้านบาทให้กับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ ผู้ผลิตถุงมือยาง ที่เป็นคู่สัญญาของอคส.

หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้ง 3 ราย มีสิทธิ์ที่จะแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน โดยต้องส่งเอกสาร หลักฐานต่างๆ มาหักล้างข้อกล่าวหาของคณะกรรมการฯ เมื่อครบ 15 วันแล้ว คณะกรรมการฯ จะนำเอกสารหลักฐานมาพิจารณา หากไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาของคณะกรรมการฯ จะเสนอให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส. ตั้งคณะกรรมการลงโทษทางวินัย ซึ่งโทษของความผิดวินัยร้ายแรงคือ ให้ออก หรือไล่ออก และตั้งคณะกรรมการรับผิดทางละเมิด เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายให้กับอคส.ต่อไป

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการฯได้ทำหนังสือถึงประธานกรรมการ อคส.สุชาติ เตชจักรเสมา เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ชี้แจงกรณีที่นายสุชาติถูกพรรคฝ่ายค้านพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยาง ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์นั้น นายสุชาติแจ้งว่า จะทำเป็นหนังสือชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงและจะส่งให้คณะกรรมการฯภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคำชี้แจงของนายสุชาติ ไม่มีผลต่อการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการฯต่อทั้ง 3 ราย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะตัดสินว่า นายสุชาติ ร่วมกระทำผิดกับทั้ง 3 รายด้วยหรือไม่ ต้องรอให้ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเท่านั้น ซึ่งคาดว่า จะชี้มูลได้ในเร็วๆ นี้

ด้านพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยืนยันว่า วันนี้จะไม่เดินทางมารับฟังข้อกล่าวของคณะกรรมการฯอย่างแน่นอน ซึ่งคณะกรรมการฯจะต้องจัดส่งข้อกล่าวหามาให้ตนที่บ้าน และตนมีสิทธิ์แก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน