BAM - ซื้อ

BAM - ซื้อ

มุ่งปรับปรุงการติดตามหนี้และบริหารมาร์จิ้น

Event

ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับประมาณการกำไร, ปรับเพิ่มคำแนะนำ

lmpact

ตั้งเป้าจะเร่งฟื้นธุรกิจในปี 2564-2568

หลังจากที่ COVID-19 กดดันการเติบโตของธุรกิจมาตลอดปี 2563 ผู้บริหารของ BAM ตั้งเป้าจะเร่งฟื้นธุรกิจโดยตั้งเป้าจะเพิ่มยอดการติดตามหนี้เป็น 1.7 หมื่นล้านบาท (จาก 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2563) โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ที่ 33% ในปี 2564 และจากนั้นจะโตอย่างมีเสถียรภาพที่ปีละประมาณ 9-10%ในช่วงปี 2565-2568 นอกจากนี้ การติดตามหนี้จะมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้นเพื่อเพิ่มมาร์จิ้นให้สูงกว่า 57% ในปี 2563 ซึ่งการจะโตได้ตามเป้าที่วางไว้ บริษัทวางแผนจะเร่งกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเพิ่มรายได้จากการผ่อนชำระค่างวดเป็นประมาณ 150 ล้านบาท/เดือน หรือประมาณ
1.8 พันล้านบาท และเร่งการขาย NPA อย่างไรก็ตาม เรายังใช้สมมติฐานยอดติดตามหนี้ปี 2564/65 ไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท/1.7 หมื่นล้านบาท

เริ่มเห็นโมเมนตั้มการเติบโต

บริษัทตั้งเป้าติดตามหนี้ใน 1Q64 ไว้ที่ 3.2 พันล้านบาท และใน 2Q64 ไว้ที่ 5.6 พันล้านบาท โดยบริษัทกำลังเจรจาอยู่หลายดีล ทั้งที่ดินแปลงใหญ่ และการใช้กลยุทธ์ด้านราคา ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถติดตามหนี้ได้ตามเป้า และรักษาโมเมนตั้งการเติบโตของการติดตามหนี้เอาไว้ได้

กำลังหารือโมเดล JV และอาจจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

BAM ยื่นข้อเสนอให้ธนาคาร และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์พิจารณาตั้ง JV ใหม่ร่วมกัน โดยภายใต้แผนดังกล่าว BAM เสนอให้ธนาคารโอน NPL ไปที่ JV ใหม่ที่จะตั้งขึ้น จากนั้นก็จะแบ่งค่าบริหารสินทรัพย์ และค่าติดตามหนี้กัน ในขณะเดียวกัน JV ที่ตั้งกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะเป็นคนละรูปแบบ โดยบริษัทตั้งเป้ าจะพัฒนาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในพอร์ตของ BAM ให้เป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ BAM ยังตั้งเป้ าจะรับรู้กำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นจาก JV มากกว่าที่จะรวมทุกรายการเข้ามาในงบรวมของบริษัท

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564/65 ลงอีก 3%/9% แต่ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ

เราปรับสมมติฐานสำคัญดังต่อไปนี้ 1.) ปรับเพิ่มอัตราภาษีจ่ายจริงปี 2564/65 เป็น 18% (จากเดิม 10%) 2.) ปรับเพิ่มยอดติดตามหนี้ปี 2564/65 เป็น 1.5 หมื่นล้านบาท/1.7 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า operating margin จะอยู่ที่ 57%/58% (จากเดิมที่ 55%/57.5%) ทั้งนี้ เนื่องจากราคาสินทรัพย์ค่อนข้างนิ่งในปี 2563 จึงน่าจะทำให้มีผู้สนใจกลับเข้ามาซื้อที่ดินแปลงใหญ่ การที่บริษัทเปลี่ยนนโยบายการลงบัญชี DTA ทำให้มูลค่าทางบัญชีเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท/หุ้น ซึ่งเมื่อใช้ P/BV ที่ 2.0x ทำให้ราคาเป้ าหมายปี 2564 เพิ่มขึ้น6.4% เป็น 26.20 บาท ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ

Risks

การด้อยค่าของสินทรัพย์, อุปสงค์ในการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพลดลง และ margin