'เพื่อไทย' ปลุกรุ่นใหม่ร่วมเปลี่ยนประเทศ 

'เพื่อไทย' ปลุกรุ่นใหม่ร่วมเปลี่ยนประเทศ 

"เพื่อไทย" นำทีมลงพื้นที่เชียงใหม่คัดเลือกคนรุ่นใหม่เข้าร่วมโครงการ The Change Maker จัดค่ายเรียนรู้กระบวนการออกแบบนโยบาย พร้อมลงพื้นที่จริงกับ ส.ส.เพื่อต่อยอดสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

 27 ก.พ. 2564 ที่ภัตตาคารตูลู่ อ.เมืองเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ The Change Maker โดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นาย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยเขต 3จังหวัด เชียงใหม่ และ ดร.คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทยและโครงการ The Change Maker โดยมีชาวเชียงใหม่ นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

ดร.คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทยและโครงการ The Change Maker เปิดเผยว่า โครงการ The Change Maker เป็นการรวบรวมนักการเมืองที่มีประสบการณ์ทำงาน เข้ามาทำงานให้เข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ผ่านกระบวนการกลั่นกรองแนวความคิด เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
          

จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกในส่วนภูมิภาค ที่โครงการเลือกที่จะมาทำกิจกรรมเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เพื่อเปิดโอกาสให้ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ได้แสดงวิสัยทัศน์เข้ารับการคัดเลือก เพื่อให้เกิดเป็นนโยบายที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เนื่องจากปัญหาที่เกิดในสังคมปัจจุบันมีความหลากหลาย การที่เปิดรับแนวคิดของคนรุ่นใหม่จึงมีความสำคัญ หลังจากนี้จะเดินทางไปที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดภูเก็ต ตามลำดับ เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
            

สำหรับโครงการ The Change Maker จะทำการเปิดให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 โดยโครงการจะทำการคัดเลือกผู้สมัครจำนวน 100 คนทั่วประเทศ โดยจะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในวันวันที่ 7 มีนาคม 2564 หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ 4 สัปดาห์ 

โดยสัปดาห์แรก เป็นการศึกษาประสบการณ์ความสำเร็จและบทเรียนทางนโยบายในอดีต  สัปดาห์ที่ 2 เข้ากระบวนการทางความคิด เปิดโอกาสให้ทุกคนเสนอแนวความคิด และนำมาพัฒนาให้กลายเป็นทางออกเชิงนโยบาย สัปดาห์ที่ 3 และ 4 ผู้เข้าร่วมโครงการ ลงพื้นที่กับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเก็บข้อมูลปัญหาเชิงโครงสร้าง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการเรียนรู้ จะเข้าสู่กระบวนการกำหนดแผน เพื่อพัฒนาให้เป็นนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง โดยนโยบายที่ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ 5 นโยบาย จะได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากร และเงินทุนนโยบายละ 100,000 บาท เพื่อนำนโยบายไปปฏิบัติจริง