เปิดทรัพย์สิน ‘Kanye West’ และ ‘Kim Kardashian’ ใครรวยแค่ไหน หลังหย่าขาด
หลัง Kanye West และ Kim Kardashian ได้เลิกรากันอย่างเป็นทางการแล้ว เขาและเธอจะจัดการกับทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่อย่างไร ว่าแต่เขาและเธอมีอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในกรุงเทพธุรกิจ
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเซเลบคู่รักพันล้านอย่าง Kanye West และ Kim Kardashian หรือที่คนมักเรียกกันว่า “Kimye” ได้เข้าสู่ทางแยกความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่างเป็นทางการแล้ว หลังแต่งงานใช้ชีวิตคู่กันได้เพียงแค่ 7 ปี และมีปัญหาภายในครอบครัวมาอย่างยืดเยื้อยาวนาน
โดยจากการรายงานของ TMZ เมื่อ คิม คาร์เดเชียน ได้เป็นฝ่ายยื่นฟ้องขอหย่าขาดจาก คานเย เวสต์ ด้วยเหตุผลการทะเลาะกันจากอาการไบโพลาร์เรื้อรังของคานเยที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2016
หากขั้นตอนทางกฎหมายเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็จะถึงจุดสิ้นสุดของ “Kimye” และเรื่องหนึ่งที่สังคมอยากรู้กันมากก็คือ หลังจากนี้ทรัพย์สินกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินบาทแบบกลมๆ ก็ประมาณ 6 หมื่นล้านบาทของทั้งคู่ จะเข้าสู่กระบวนการจัดสรรปันส่วนและแบ่งให้ลงตัวกันอย่างไร
“กรุงเทพธุรกิจ” อาสาพาไปดูว่า ทรัพย์สินที่พวกเขามีทั้งหมดนั้น มีอะไรบ้าง
ก่อนอื่นขอจำแนกก่อนว่า ทรัพย์สินของครอบครัวนี้ จำแนกออกมาได้ 3 ส่วนด้วยกัน
ทรัพย์สินของ Kanye West (คานเย เวสต์) : 1.3 พันล้านดอลลาร์ (3 หมื่นล้านบาท)
จำแนกเป็นทรัพย์สมบัติได้ดังต่อไปนี้
- แบรนด์สนีกเกอร์ ‘Yeezy’ ที่ทำร่วมกับอาดิดาส 140 ล้านดอลลาร์
- เงินสด’ จำนวน 17 ล้านดอลลาร์
- หุ้น มูลค่า 35 ล้านดอลลาร์
- ที่ดิน มูลค่า 21 ล้านดอลลาร์
- อาคารและการก่อสร้าง มูลค่า 81 ล้านดอลลาร์
- ค่ายเพลง G.O.O.D. มูลค่า 90 ล้านดอลลาร์ (ในส่วนของค่ายเพลงความจริงแล้วเป็นหนี้อยู่ 100 ล้านดอลลาร์ด้วย รายงานจาก Forbes)
ทั้งนี้ “คานเย” เคยให้ข้อมูลกับทาง Forbes (เมื่อเดือนเมษายน 2563) ไว้ว่า แท้จริงแล้วเขามีทรัพย์สินทั้งหมดจริงๆ อยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์ (กว่า 1 แสนล้านบาท ) แต่จากข้อมูลที่ให้มาเพียงแค่ตัวเลข ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ทรัพย์สินที่เหลือมาจากแหล่งใด
ทรัพย์สินของ Kim Kardashian (คิม คาเดเชียน) : 780 ล้านดอลลาร์ (2 หมื่นล้านบาท)
ทรัพย์สินของ คิม คาร์เดเชียน จำแนกเป็นทรัพย์สมบัติได้ดังต่อไปนี้
- ธุรกิจเครื่องสำอาง KKW Beauty ซึ่งล่าสุดขายหุ้นให้กับ Coty บริษัทความงามชั้นนำ จำนวน 20% ตีเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ และหุ้นอีก 72% มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ ตระกูล Kardashian ได้ถือครองไว้
- ธุรกิจชุดกระชับสัดส่วนหญิง SKIMS มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
- เป็นนักแสดงและ Executive Producer ให้กับรายการเรียลลิตี้โชว์ Keeping Up with the Kardashians ที่ตีแผ่เรื่องราวครอบครัวของเธอ
คิมได้รับเงินซีซันละ 4.5 ล้านดอลลาร์ ผ่านมา14ปี จนถึงปัจจุบันมี 20ซีซันแล้ว และกำลังจะถ่ายทำซีซันสุดท้าย และยุติลงในปีนี้
- รายได้จาก การลงโฆษณาบน Instagram ส่วนตัว ที่มีผู้ติดตาม 206 ล้านราย โพสต์ละ 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ในอดีตเธอเคยเปิดร้านมัลติแบรนด์สโตร์ที่ชื่อ DASH ขายพวกเครื่องประดับกับเสื้อผ้า มีด้วยกันทั้งหมด 4 สาขาในประเทศอเมริกา แต่ปิดตัวลงในปี 2017 โดยเธอได้ให้เหตุผล ณ ตอนนั้นว่า ช่วงนั้นกำลังยุ่งกับหลายสิ่งหลายอย่างมาก ไม่สามารถโฟกัสหลายอย่างได้ เพราะกลัวจะทำออกมาไม่ดี และได้ปรึกษากับทางครอบครัวดีแล้วจึงทำการปิดตัวบริษัทนี้ลง
ทรัพย์สินที่ทั้งสองมีร่วมกัน
ซึ่งแบ่งย่อยได้อีกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
- อย่างแรก คานเยและคิม ถือครองคฤหาสน์ที่ Hidden Hills, California ร่วมกัน มีมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์
- อย่างที่สอง ทรัพย์สินที่ถือครองโดยลูกของเขาและเธอทั้ง 4 คน (North West อายุ 7 ปี, Saint West อายุ 5 ปี, Chicago West อายุ 3 ปี และ Psalm West อายุ 1 ปี) ถือครองอสังหาริมทรัพย์ 100 ล้านดอลลาร์ คอลเล็กชั่นรถ กว่า 3.9 ล้านดอลลาร์ และฟาร์มปศุสัตว์ ที่รัฐ Wyoming กว่า 3 แสนดอลลาร์ โดยทรัพย์สมบัติที่เป็นชื่อลูกๆ ปัจจุบันจะยังคงอยู่ในความดูแลของทั้งคู่จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ
โดยทั้งหมดนี้ สรุปได้ว่าทรัพย์สินและกิจการส่วนตัวของแต่ละคนก็อยู่ในความดูแลและรับผิดชอบของตนเองเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างไม่เกี่ยวข้องกันกับทรัพย์สินของอีกฝ่าย โดยการแบ่งทรัพย์สินนั้นไม่มีความข้องใจใดๆ กัน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เพราะทั้งคู่ได้เซ็นสัญญา Prenuptial Agreement ตกลงกันไว้ก่อนแต่งงานอยู่แล้ว และพร้อมกันนี้ในเรื่องของการเลี้ยงดูลูกทั้ง 4 คน ทั้งคู่ได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกทั้งหมดอย่างเท่าเทียม
สาเหตุที่คาดว่าอาจจะเป็นต้นตอในการหย่าของคานเยและคิม มาจากปัญหาอาการไบโพลาร์เรื้อรังของตัวคานเย ซึ่งสร้างความหนักใจให้กับภรรยาอย่างคิมมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งทั้งคู่ได้แยกกันอยู่ตั้งแต่ปีนี้ และในปี 2020 สถานการณ์ระหว่างทั้งสองและครอบครัวของคิม ได้เดินทางมาถึงฟางเส้นสุดท้าย ในช่วงที่คานเยส่งสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยคานเยได้ใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาคิมและแม่ของเธอในทางที่ไม่ดี ทั้งที่ทางครอบครัวคิมได้ส่งหมอไปช่วยรักษาอาการไบโพลาร์ของเขาด้วยซ้ำ แต่คิมก็ทนมาตลอดจนสุดท้ายทนไม่ไหวเลยต้องเกิดการหย่าขาดกัน
อย่างไรก็ตามแม้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะจบลงด้วยเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการจัดการทรัพย์สินรวมถึงสิทธิ์ในการดูแลลูกๆ ของพวกเขา นับเป็นเรื่องที่ชาญฉลาดมากทีเดียว เพราะได้ทำการร่างสัญญาข้อตกลงกันไว้ก่อน ทำให้ไม่เกิดการผิดใจกันทีหลัง
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนคิดที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 30 บาท
Credit: Forbes, Dailymail, Harper Bazaar
