'ห้างค้าปลีก' ห้ามซื้อน้ำมันปาล์มเกินคนละ 3 ขวด

'ห้างค้าปลีก' ห้ามซื้อน้ำมันปาล์มเกินคนละ 3 ขวด

ห้างค้าปลีก จำกัดการซื้อน้ำมันปาล์ม ไม่เกินครัวเรือนละ 3 ขวด สกัดซื้อกักตุน หวังเก็งกำไร หลังราคาพุ่ง ทำสต็อกเริ่มพร่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดยังประสบปัญหาตรึงตัวต่อเนื่อง โดยล่าสุดร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง ได้ออกประกาศจำกัดการซื้อไม่เกินครัวเรือนละ 3 ขวด หลังพบว่ามีประชาชน ร้านค้าโชห่วย และผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภททอด ได้แห่เข้ามาซื้อตุนไปใช้จำนวนมากจนทำให้น้ำมันปาล์มขวดเริ่มพร่องไปจากชั้นวางอย่างชัดเจน

“พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่พอเห็นน้ำมันปาล์มขวดแพงขึ้น ก็เข้ามาหาซื้อกันมากขึ้น เพราะเกรงว่าราคาจะสูงขึ้นไป อีกทั้งยังกลัวว่าน้ำมันปาล์มจะขาดตลาดไม่มีขายเหมือนก่อน ขณะที่ร้านโชห่วยบางรายก็เข้ามาซื้อตุนไว้และนำไปขายต่อทำกำไร ทำให้ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ต้องออกประกาศจำกัดโควตาการซื้อ”

161295351866

นอกจากนี้ ยังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่าร้านโชห่วย และร้านค้าตามตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และร้านธงฟ้า มีการปรับราคาขายน้ำมันปาล์มขวดขึ้นไปถึง 50-55 บาท

โดยร้านค้าส่วนใหญ่รับซื้อมาจากร้านโมเดิร์นเทรดและนำมาขายต่อทำกำไร ซึ่งสามารถทำได้เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้ยกเลิกกำหนดราคาเพดานสูงสุดสำหรับน้ำมันปาล์มขวด 42 บาท และน้ำมันถั่วเหลืองขวด 55 บาทไปแล้ว เพื่อให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงหลังจากที่ผ่านราคาน้ำมันปาล์มได้ลดลงไปมากขายไม่เกินขวด 42 บาท

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งเพิ่มว่า สำหรับราคาน้ำมันปาล์มที่แพงขึ้นในช่วงนี้ เป็นผลมาจากผลผลิตได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศแปรปรวน จนทำให้ผลผลิตออกมาลดลง จึงส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันสูงขึ้นต่อเนื่อง จาก กก.ละ 3.00–3.50 บาท ในช่วงกลางปี 63 เป็น กก.ละ 7.00 บาท ในช่วงปลายปี 63 และทรงตัวอยู่ในระดับสูงถึง กก.ละ 7.50 บาท

ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในแหล่งผลิตขยับสูงขึ้น เป็น กก.ละ 39 บาท ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ และมีผลต่อเนื่องถึงราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลปาล์มจะออกเพิ่มขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติในเดือนมี.ค.64