ทุกคนสร้างสำเร็จได้

ทุกคนสร้างสำเร็จได้

ส่อง 6 วิธีคิดสร้างความสำเร็จที่ใครๆ ก็สามารถสร้างได้ ความสำเร็จที่จะเกิดด้วยผลงานจริงๆ ที่ไม่ใช่ด้วยวาทกรรม

ในสังคมที่ปากเป็นเอก เลขเป็นโท คนพูดมีเยอะ คนทำมีน้อย คนพูดโด่งดังกว่าคนทำ แม้แต่คนในวงการปัญญาชน คนไหนพูดบ่อย ทำตัวเป็นข่าวดังจากเรื่องดังๆ ดูเป็นคนเก่งกว่าคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานวิชาการ คนทุ่มเทสู้กับโรคระบาดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมีอยู่ไม่น้อย แต่ก็มีน้อยกว่าคนที่พูดนั่นพูดนี่เกี่ยวกับโรคระบาด โดยแทบไม่พบเห็นการกระทำใดๆ เลย 

ในสภาพนี้ผู้ที่พยายามจะสร้างความสำเร็จใดๆ ขึ้นมาย่อมต้องเดินหน้าอย่างมีหลักการ เพราะคนรอบตัวสนใจคนพูด แต่มักมองข้ามคนทำ ถ้าเดินหน้าด้วยความพร้อมอย่างเต็มที่ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครสามารถสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ รวมทั้งในสังคมคนช่างพูด

หลักหนึ่ง คือ ต้องรู้ก่อนว่าความสำเร็จที่อยากให้เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร ระวังมากๆ ว่าในสังคมที่นิยมคนพูดเก่ง ภาพความสำเร็จจะฟุ้งซ่านไปหมด จนคนส่วนใหญ่แยกแยะไม่ได้ว่าอันไหนคือความสำเร็จที่ควรจะเกิดขึ้น อันไหนเป็นผลข้างเคียงจากวาทะเป็นเอก ก่อนเดินหน้าไขว่คว้าหาความสำเร็จ ให้นึกภาพความสำเร็จที่ชัดเจนที่สุดให้ได้เสียก่อน นึกไม่ออก อย่าเพิ่งเดินหน้า

หลักสอง คือ ต้องมีทัพมีทีม เพราะงานแทบทุกงานไม่อาจทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้น ต้องรู้ก่อนเดินหน้าว่าใครบ้างจะต้องทำอะไรบ้าง ระวังคนช่างพูดไว้ให้ดี อย่ามั่นใจว่าคนปากเก่งเหล่านั้นจะทำหน้าที่ในส่วนที่เราต้องการจากเขาได้ ยอมเตรียมทัพเตรียมทีมที่เกินกว่าที่ควรจะเป็นไว้บ้าง เผื่อไว้สำหรับคนช่างพูด แต่ไม่ช่างทำไว้ด้วย

หลักสาม คือ วิธีทำเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องตระเตรียมตั้งแต่ต้น ระวังมากๆ ว่าหลายเรื่องพูดง่ายกว่าทำเยอะมาก ในสังคมที่นิยมคนช่างพูด ให้ทบทวนให้มั่นใจว่าแต่ละงานที่จะต้องทำเพื่อให้เดินหน้าสู่ความสำเร็จนั้น ทุกงานมีวิธีทำที่จะทำได้จริงๆ ทำได้โดยทัพโดยทีมที่เราวางตัวกันไว้ พูดได้กับทำได้อาจไม่ใช่เรื่องเดียวกัน อาจจะดูจุกจิกบ้างที่ต้องมาถามซ้ำซากว่าวิธีทำงานนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง แต่ยอมหงุดหงิดกับการมุ่งเน้นการลงมือทำไว้ก่อน ดีกว่าไปกลางทางแล้วเพิ่งรู้ว่างานนั้นก็ทำไม่เป็น งานนี้ก็ทำไม่ได้

หลักสี่ คือ เตรียมเสบียง เตรียมเงิน เตรียมทอง เตรียมเครื่องมือ เตรียมสภาพแวดล้อม สนับสนุนการทำงานไว้ให้ครบถ้วน ตำราชอบบอกว่าให้ตระเตรียมทรัพยากรสนับสนุนการเดินทางสู่ความสำเร็จไว้ให้พร้อม ลองนึกถึงขุนศึกที่ฮึกเหิมออกศึกโดยเสบียงไม่พอ ข้าศึกแค่รอจนไม่มีอะไรจะกินก็เอาชนะได้สบายๆ 

หลักสี่เป็นหลักที่ล้มเหลวกันมากที่สุด คือไม่รู้ว่าจะออกศึกต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ใช้เงินทองเท่าไร ต้องมีกฎระเบียบอะไรบ้างที่ต้องใช้ในการสร้างความสำเร็จ โครงสร้างของทัพของทีมต้องจัดกันอย่างไร ต้องมีเทคโนโลยีอะไรติดไม้ติดมือไปบ้าง เหตุที่ล้มเหลวกับหลักสี่กันเยอะมาก เพราะคิดไม่รอบคอบ หรือใจร้อนเร่งเดินทางมากเกินไป จนทำให้ออกเดินทางโดยไม่มีความพร้อม

หลักห้า คือ ดูความเสี่ยงให้รอบด้าน ไม่มีงานไหนไม่มีความเสี่ยง มองหนทางข้างหน้าว่าอะไรบ้างจะถูกคุกคาม เงินทองมีความเสี่ยงแค่ไหน กฎระเบียบเสี่ยงอย่างไรบ้าง วิธีการทำงานเสี่ยงตรงไหนบ้าง และในบรรดาความเสี่ยงเหล่านั้น ประเมินกันอย่างไร รู้ตัวหรือไม่ว่าตอนไหนต้องจัดการอย่างไร และใครจะต้องตัดสินใจเรื่องความเสี่ยงเหล่านี้ คนเผอเรอ หรือคนที่ด้อยประสบการณ์มักมองข้ามความเสี่ยง ออกเดินทางโดยไม่รู้ว่ามีอันตรายอยู่ข้างหน้า ดูฤกษ์ดูยามแม้จะช่วยได้บ้าง แต่ดูความเสี่ยงก่อนออกเดินทางช่วยให้เกิดความสำเร็จได้ไม่น้อยกว่าฤกษ์ยามแน่ๆ

หลักหก คือ มาตรวัดความสำเร็จและความก้าวหน้าสู่ความสำเร็จ จะขับรถยังต้องมีเกจ์วัดความเร็ว วัดน้ำมัน ลองนึกดูว่าจะขับรถโดยไม่รู้ความเร็ว ไม่รู้ปริมาณน้ำมัน ไม่รู้ปริมาณไฟฟ้าที่รถมีอยู่ ท่านจะไปไหนได้ไกลแค่ไหน หน้าปัดวัดความสำเร็จและความก้าวหน้า ต้องคิดกันก่อนออกเดินทางสู่ความสำเร็จ อย่าเดินหน้าโดยไม่รู้ว่าจะวัดความสำเร็จได้อย่างไร

ถ้าเตรียมตัวให้ครบหกหลัก ก่อนเดินหน้าหาความสำเร็จ ใครๆ ก็สร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น สำเร็จด้วยผลงานจริงๆ ไม่ใช่ด้วยวาทกรรม