เศรษฐกิจแย่ฉุดใช้จ่ายตรุษจีนต่ำสุดรอบ 13 ปี

เศรษฐกิจแย่ฉุดใช้จ่ายตรุษจีนต่ำสุดรอบ 13 ปี

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผย ตรุษจีนปีนี้กร่อย เงินสะพัดแค่ 4.5 หมื่นล้านบาท ติดลบ 21.85%เมื่อเทียบปี 63 ที่มียอดใช้จ่ายกว่า 5.7 หมื่นล้านบาท ลดลงต่ำสุดในรอบ 13 ปี

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ที่สำรวจจากประชาชน 1,215 ตัวอย่างทั่วประเทศ ว่า ปีนี้มีมูลค่าการใช้จ่าย 44,939 ล้านบาทลดลง 21.85% เมื่อเทียบกับปี 63 ที่มีมูลค่าใช้จ่าย 57,639 ล้านบาท ลดลง 1.30%ถือว่า ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ หรือลดลงต่ำสุดในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่มีการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2552

“มูลค่าใช้จ่ายปี 63 ที่ติดลบ 1.3%จากปี 62 ก็ว่าน่าตกใจแล้ว พอมาเจอปี 64 ที่ติดลบมากถึง 21.85% หายไป 12,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 63 ยิ่งน่าตกใจมาก เพราะคนตอบว่า เศรษฐกิจไม่ดี รายได้ลดลง และผลกระทบของโควิด ทำให้ใช้จ่ายลดลง และเมื่อแยกเป็นรายภูมิภาค พบว่า ภาคใต้ ติดลบมากสุดที่ 25.80% ตามด้วยกรุงเทพฯและปริมณฑล 24.50% ภาคกลางลบ 21.40% ภาคเหนือลบ 17.21% และอีสานลบ 15.55%”

สำหรับมูลค่าการใช้จ่ายปี 2564 ที่ลดลง เพราะเศรษฐกิจแย่ลง รายได้ลดลง ลดค่าใช้จ่าย การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นหนี้เพิ่ม ของแพง ตกงาน ส่งผลให้ปริมาณการซื้อสินค้าลดลง ส่วนอีก 33.2%ใช้จ่ายไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนแหล่งที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่าย 66.8%จากเงินเดือน/รายได้ปกติ, 19.8%เงินออม, 10%โบนัส รายได้พิเศษ, 1.6%เงินกู้ และอีก 1.8%เป็นเงินช่วยเหลือจากภาครัฐจากมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งมากกว่าปี 63 ที่มีพียง 0.1%ดังนั้น การที่ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือ สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างในช่วงตรุษจีน