อยากปลูก 'กัญชง' ต้องมีขั้นตอนขออนุญาตอย่างไรบ้าง?
อย. เคลียร์ชัด ขั้นตอนการขออนุญาตปลูก "กัญชง" พร้อมเตือน! อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ชวนลงทุนหลักพัน ได้เมล็ดพันธุ์แถมรับซื้อผลผลิต ไม่เป็นความจริง
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. 2563 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีประชาชน เกษตรกร และทุกภาคส่วนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2564 มีผู้ขอรับคำปรึกษาทั่วประเทศกว่า 2,000 คน
ประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้
1.การยื่นคำขออนุญาตปลูกกัญชงสามารถยื่น ณ สถานที่ปลูกตั้งอยู่
- หากอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่ อย.
- หากอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)
- การนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงเพื่อปลูก หรือศึกษาวิจัยให้ยื่นคำขอที่ อย.
2.เอกสารแสดงสิทธิ์การครอบครองหรือใช้ประโยชน์ที่ดินที่ใช้ประกอบการยื่นคำขอ
เช่น โฉนด, น.ส.3, สัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ ในกรณีใช้ที่ดินของหน่วยงานรัฐ เช่น ที่ราชพัสดุ หรือที่ดิน ส.ป.ก. ให้ใช้หนังสือแสดงการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของที่ดินนั้น
3.ระยะเวลาพิจารณาอนุญาตตามคู่มือประชาชน ทั้งนี้ อย.จะเร่งการอนุญาตให้เร็วที่สุด
- กรณีปลูก สูงสุดไม่เกิน 135 วัน
- กรณีนำเข้า สูงสุดไม่เกิน 75 วัน
สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกกัญชง แต่ยังหาคู่ธุรกิจไม่ได้ อย.จะประสานจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ปลูกและผู้รับซื้อ เช่น โรงสกัด โรงงานแปรรูป ผู้รับซื้อสารสกัดไปผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผู้ที่สนใจลงชื่อได้ที่ อย. และสสจ. ทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นอกจากนี้ อย.อยู่ระหว่างประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อจัดตั้งตลาดกลางกัญชา กัญชง ให้เป็นศูนย์กลางรับซื้อรองรับและกระจายผลผลิตกัญชา กัญชงจากเกษตรกรรายย่อยส่งไปยังภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศต่อไป
รองเลขาธิการฯ อย.ยังได้เตือนว่า ขณะนี้เริ่มมีกลุ่มบุคคลชักชวนให้เกษตรกรสมัครเป็นสมาชิก โดยเสียค่าลงทะเบียนคนละ 1,000 บาท และซื้อหุ้นอีก 1,000 บาท จึงจะได้เมล็ดพันธุ์ไปปลูกและรับซื้อผลผลิต ขอให้เกษตรกรอย่าเพิ่งหลงเชื่อ ขณะนี้หน่วยงานที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเมล็ดพันธุ์กัญชง เช่น สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หากต้องการตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าติดต่อที่กองควบคุมวัตถุเสพติด