กรมการแพทย์แผนไทยฯ ต่อยอดวิจัย 'ฟ้าทะลายโจร' รักษาผู้ป่วยโควิด ระยะ 2

กรมการแพทย์แผนไทยฯ ต่อยอดวิจัย 'ฟ้าทะลายโจร' รักษาผู้ป่วยโควิด ระยะ 2

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ต่อยอดการศึกษาวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระยะที่ 2 เพื่อยืนยันประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งงานวิจัยที่ผ่านมาพบผู้ป่วย ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวภายหลังการประชุม ติดตามผลการดำเนินงานวิจัย โครงการศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อระยะเวลาการหายจากอาการโรคโควิด – 19 ที่ผ่านมา การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลการศึกษาในจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นและศึกษาความปลอดภัยระยะสั้นของการรับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงในผู้ป่วยโรคโควิด – 19 เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาร่วมกับการรักษามาตรฐาน


จากกรณีที่มี การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ทำการศึกษานำร่องการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย โควิด - 19 ร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรปราการ จำนวน 6 ราย ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้น ในผู้ป่วยที่รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ขนาด 180 มิลลิกรัม/วัน ผู้ป่วยทุกราย มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่สามของการได้รับสารสกัดดังกล่าว โดยหากแยกรายละเอียดอาการ จะพบว่า อาการไอ, เจ็บคอ, มีเสมหะ , มีน้ำมูก , ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ มีอาการดีขึ้น ผู้ป่วยไม่มีอาการข้างเคียง ค่าการทำงานของตับและไต อยู่ในเกณฑ์ปกติ

แพทย์หญิงอัมพร กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับ โรงพยาบาลสมุทรปราการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และองค์การเภสัชกรรม ศึกษาวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติม ระยะที่ 2 เพื่อศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อระยะเวลาการหายจากอาการโรคโควิด-19 เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการร่วมรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งได้ออกแบบการศึกษาวิจัยเป็นแบบสุ่มปกปิดสองทาง เพื่อลดอคติ ของการประเมินผลและมีหลักฐานการวิจัยที่ชัดเจนน่าเชื่อถือในการยืนยันประสิทธิผลของสารสกัดฟ้าทะลายโจร และเพิ่มเติม การเพาะเลี้ยงเชื้อจากสิ่งส่งตรวจ จากตัวอย่างโพรงจมูกของอาสาสมัครเพื่อศึกษาผลของสารสกัดฟ้าทะลายโจร ต่อจำนวนเชื้อไวรัส

ซึ่งการศึกษาวิจัยนี้ต้องการอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 60 ราย ทั้งนี้เก็บข้อมูลอาสาสมัครในโครงการแล้ว 30 ราย และส่งต่อตัวอย่างของอาสาสมัครแก่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการเพาะเลี้ยงเชื้อ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยและเผยความก้าวหน้าของการวิจัยดังกล่าว ต่อไป แพทย์หญิงอัมพร กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับประชาชนท่านใด หากมีอาการคล้ายอาการไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ควรกินยาฟ้าทะลายโจรทันที แต่หากกินยาฟ้าทะลายโจรแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบไปพบแพทย์ และไม่ควรกินยา ฟ้าทะลายโจรเพื่อการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีหลักฐานทางวิชาการเพียงพอ ว่าฟ้าทะลายโจรสามารถ ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

หากท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ฟ้าทะลายโจร สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน ฟ้าทะลายโจร โทร. 065 504 5678 หรือ ช่องทาง www.facebook.com/dtam.moph และ Line @DTAM