แม่ค้าส้มตำโอด พริกแพงลิ่ว แทบไม่มีเงินซื้อ วอนรัฐแก้ปัญหาด่วน

พาณิชย์ทราบแล้วเปลี่ยน! แม่ค้าส้มตำโอด พริกราคาแพงลิ่ว แทบไม่มีเงินซื้อ วอนรัฐแก้ปัญหาและช่วยเหลือด่วน

หลังจากมีกระแสข่าวราคาพริกขี้หนูสวนและพริก ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีราคาพุ่งสูงขึ้น หรือ พริกเม็ดละ 1 บาท สืบเนื่องมาจากปัจจัยเกี่ยวกับสภาพอากาศเป็นหลัก

ซึ่งบางกระแสระบุว่า เกษตรกรจะเริ่มเพาะปลูกพริกในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน กว่าจะได้ผลลิตเมล็ดพริกที่สามารถจำหน่ายได้ จะต้องใช้เวลาปลูกประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งผลผลิตต่อไร่ จะได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัมต่อไร่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทำไม 'พริก' แพง? เปิด 5 ปัจจัย 'ราคาพริก' ที่คนไทยต้องรู้

161180322597

โดยผลผลิตจะออกมากและสุกเร็วในช่วงอากาศร้อน ขณะที่บางรายบอกว่า สถานการณ์ของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้การขนส่งค่อนข้างยาก ประกอบกับช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 อากาศเย็น ผลผลิตพริกจึงออกน้อยและสุกช้า ทำให้ราคาในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พุ่งสูงต่อเนื่องถึงต้นเดือนมกราคม 2564 โดยสูงถึงกิโลกรัมละ 200-240 บาท

ทั้งนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กำชับไปยังพาณิชย์จังหวัดฯ ได้ออกติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

ล่าสุด วันนี้ (28มกราคม 2564) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อีกครั้ง สำรวจร้านค้าที่ใช้พริกเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร โดยร้านไก่ย่างโค้งวัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พบว่า มีลูกค้ามารับประทานอาหารค่อนข้างน้อย

ซึ่งลูกจ้างร้านฯ ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่โควิดระบาด ร้านก็เงียบลงมาก ลูกค้าน้อยอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทางร้านแบกภาระต้นทุนค่อนข้างสูง เพราะยังคงขายอาหารอีสาน ไก่ย่าง และส้มตำในราคาปกติ ส่วนกรณีที่ราคาพริกแพงขึ้นในช่วง 2 เดือนนี้ ทางร้านต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยซื้อพริกแดงในปริมาณที่ลดลง และใส่พริกแห้งผสมลงไปบ้าง แต่ถ้าลูกค้าสั่งรสเผ็ดจัด ก็จะใส่พริกให้ในปริมาณปกติ จะถัวเฉลี่ยกันไป ไม่ได้เพิ่มราคา เพราะลูกค้าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทานรสเผ็ด เห็นใจลูกค้า แต่ก็สงสารที่ทางร้านต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้น

161180324162

ขณะที่ นางลักสัน ละเมียดดี อายุ 51 ปี แม่ค้าร้านส้มตำลูกหว้า ซึ่งเป็นร้านรถเข็นตั้งอยู่บนถนนเดชอุดมซอย 6 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ประสบปัญหาพริกแพงอย่างมาก เพราะเป็นร้านค้ารถเข็นเล็กๆ ไม่มีเงินสำรองซื้อพริกในปริมาณมาก จากเดิมเคยซื้อในตลาดครั้งละ 1 กิโลกรัม แต่ต้องลดลง เหลือซื้อครั้งละครึ่งกิโลกรัมเท่านั้น ในราคา 100 บาท เวลาตำส้มตำให้ลูกค้าก็จะใส่พริกแห้งเข้าไปด้วย

ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ ยิ่งตอนนี้ทำหากินลำบาก ถ้าไม่มีโครงการคนละครึ่ง แต่ละวันก็แทบจะไม่มีลูกค้าเลย ทำให้ต้องลดต้นทุนซื้อวัตถุดิบลงได้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้พริกแดงหรือพริกสดชนิดอื่นๆของร้าน ก็แทบจะไม่เหลือ ต้องใช้พริกแห้งแทน เพราะแทบจะไม่มีเงิน ต้องรอรวบรวมเงินให้ได้ตามจำนวนก่อน จึงจะไปซื้อพริกสดมาใส่ส้มตำไว้ขาย จึงอยากวอนไปถึงหน่วยงานภาครัฐ สามารถจะช่วยเรื่องไหนได้ ก็อยากให้เข้ามาช่วยแก้ไขโดยเร็ว