เอสซีจี เซรามิกส์ รุกขายออนไลน์ หลังโควิดพ่นพิษดีมานด์ต้นปีหาย

เอสซีจี เซรามิกส์ รุกขายออนไลน์ หลังโควิดพ่นพิษดีมานด์ต้นปีหาย

เอสซีจี เซรามิกส์ เผยโควิดกระทบดีมานด์ต้นปีลดลง เร่งปรับกลยุทธ์ช่องทางขายออนไลน์เน้นที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดและควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อรองรับตลาดอสังหาฯฟื้น

นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องแบรนด์ คอตโต้ , โสสุโก้ และ คัมพานา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19ที่ผ่านมาได้ส่งผลต่อความมั่นใจของลูกค้าโดยเฉพาะช่วงต้นปีซึ่งปกติเป็นเวลาที่มีดีมานด์สูงสุดของทุกปี ลดลง ถึงแม้กระทั้งขณะนี้ บริษัทยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจน แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังคงชะลอตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ส่งผลให้การแข่งขันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจากดีมานด์และกำลังซื้อที่ชะลอตัว

ในปีนี้ บริษัทได้มีการปรับตัวและเตรียมแผนงานรับมือ โดยมุ่งเน้นที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดและควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อรองรับการฟื้นตัวในอนาคต โดยได้นำบทเรียนจากการล็อคดาวน์ครั้งก่อนมาปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งการขายผ่านช่องทางออนไลน์ การประมาณการความต้องการซื้อของลูกค้าและการผลิตสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับแนวทางการทำตลาดบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นเรื่องช่องทางที่หลากหลายทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไปเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกระดับ โดยปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายให้มีความหลากหลายมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้จากหลากหลายช่องทาง และมุ่งเน้นสินค้านวัตกรรม (High Value Added) ทั้งในด้านฟังก์ชันการใช้งานควบคู่ไปกับความสวยงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสอดรับกับเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะเทรนด์เรื่องการให้ความสำคัญกับสุขภาพและสุขอนามัยที่ดี (Well-Being) ความตื่นตัวเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยตลอดจนการเตรียมพื้นที่สำหรับสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้สูงอายุ รวมถึงเทรนด์เรื่องการปรับปรุงที่อยู่อาศัย (Renovation)


ส่วนการขยายธุรกิจด้านพลังงาน ภายใต้ แบรนด์ “SUSUNN” บริษัทได้ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดจำหน่าย ติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดหลากหลายประเภทโดยเฉพาะระบบโซลาร์เซลล์ เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพและประสบการณ์ของทีมงาน หลังจากดำเนินงานมา 2-3 ปีสินค้าและบริการได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 9,951 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 10% โดยมีกำไรสุทธิ 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 252 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาก๊าซธรรมชาติ ความสามารถในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารการขายและการตลาดได้ตามเป้าหมาย

ด้านสถานการณ์ตลาดเซรามิกในประเทศ ไตรมาสที่ผ่านมาความต้องการใช้กระเบื้องเซรามิกชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีปัจจัยลบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ตลอดจนอุทกภัยในหลายพื้นที่และการสิ้นสุดของมาตรการพักชำระหนี้ แม้ว่าภาครัฐมีการคลายการล็อคดาวน์ตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ผ่านมา รวมทั้งออกมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน อาทิ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน ที่อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อในประเทศมากขึ้น แต่ยังไม่มีนโยบายหรือมาตรการที่ส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างโดยตรง