Sideways Down

Sideways Down

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1512 / 1520 จุด แนวรับ 1492 / 1485 จุด แนะนำ เก็งกำไร SCGP MTC RBF ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณซื้อคืน หากดัชนีฯ ทะลุเหนือ 1512 จุดขึ้นไปปัจจัยลบ คือ จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 วันนี้คาดพุ่งขึ้นแรง หลังการคัดกรองเชิงรุกในจ. สมุทรสาคร วานนี้ ทำให้พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม 844 ราย ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ รายงานผลกำไรบจ. สหรัฐฯ และไทย รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) คาดวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้น หลังวานนี้พบผู้ติดเชื้อ จากการ คัดกรองเชิงรุกในจ. สมุทรสาคร กว่า 844 ราย (-ตลาดหุ้นไทย)

      2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ วงเงิน 1.9Trn อาจต้องมีการลดขนาด เพื่อให้ผ่านสภาครองเกรส (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ)

      3) สหรัฐฯ เตรียมห้ามคนที่ไม่ใช่อเมริกัน เดินทางเข้าประเทศ จาก UK บราซิล และบางประเทศของอียู เพื่อลดการแพร่ระบาด COVID-19 (-กลุ่มท่องเที่ยวและการเดินทาง)

      4) คาด IMF ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงจากเดิม 5.2% หลังการฉีดวัคซีนล่าช้ากว่าคาด (-เศรษฐกิจโลก)

      5) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ฟิลิปปินส์ ที่ล่าช้ากว่า จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ส่งผลให้กระแส Fund Flow ชะลอตัว (-ตลาดหุ้นไทย)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้  IMF-รายงาน World Economic Outlook / Japan-รายงานผลประชุม BOJ ที่ผ่านมา / USA-House Price Index เดือน พ.ย. +1% MoM (Vs เดือน ต.ค.+1.5% MoM ), S&P Case/Shiller home price เดือน พ.ย. คาด +0.5% MoM (Vs เดือน ต.ค. +1.3% MoM) / Earnings-USA: UBS, Microsoft, J&J , AMEX, Starbucks, GE, TI, ไทย-THANI, SCGP

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวเล็กน้อย หลังร่วง 3 วัน: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ 1491.63-1505.47 จุด ก่อนขึ้นมาปิดตลาดที่ 1501.62 จุด +3.74 จุด +0.25% วอลุ่ม 8.28 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มบรรจุภัณฑ์ +3.49% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +1.68% อาหารและเครื่องดื่ม +1.5% หุ้นบวก >4% HANA KCE CBG SCGP EA GLOBAL SAWAD ICHI AMATA DOHOME BEAUTY RBF JR SVI COM7 HUMAN CWT ZIGA GCAP หุ้นร่วง >4% NER PTL TVO TRUBB WICE

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดผสมผสาน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJ -0.12% (-36.98 จุด) S&P500 +0.36% Nasdaq +0.69% จากรายงานผลกำไรบจ. ที่ดีกว่าคาด แม้มีข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดนอาจต้องมีการลดขนาดลงจาก USD1.9Trn ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงต่อ DAX -1.66% FTSE -0.84% CAC40 -1.57% จากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นเยอรมนีที่แย่สุดรอบ 6 เดือน และแผนการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ของอียูจะล่าช้าออกไป เพราะผู้ผลิตวัคซีนไม่สามารถส่งมอบวัคซีนได้ตามกำหนด นำลงโดยหุ้นกลุ่มเดินทาง หลังสหรัฐฯ เตรียมแบนการนำเข้าจากอียู

+/- ตลาดน้ำมันปิดบวก ส่วนทองอ่อนลงเล็กน้อย: ตลาดน้ำมันดิบโลกกลับมาปิดบวก WTI +47 เซนต์ ปิดที่ USD52.74/บาร์เรล Brent +47 เซนต์ ปิดที่ USD55.88/บาร์เรล รับข่าวอุปทานน้ำมันดิบโลกลดลงจากอิรักลดการผลิตเหลือ 3.6 จาก 3.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน และกองกำลังพิทักษ์แหล่งปิโตรเลียมของลิเบีย ระงับการส่งออกน้ำมัน เพราะปัญหาการจ่ายเงิน ส่วนตลาดทองคำลดลงเล็กน้อย –USD0.90 ปิดที่ USD1,859/ออนซ์ จากการแข็งค่าของเงิน USD

ประเด็นสำคัญ

- สมุทรสาคร: รายงานเย็นวานนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 914 ราย จำแนกเป็นจากการค้นหาเชิงรุก 844 ราย เป็นคนไทยจำนวน 84 ราย แรงงานต่างด้าว 760 ราย ที่เหลือเป็นผู้ป่วยจากการตรวจในโรงพยาบาล 70 ราย

+ IMF: ออกรายงานเศรษฐกิจโลกใหม่วันนี้ Krungthai COMPASS คาด IMF จะปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2021E ลดลงจากเดิม +5.2%

- EM: ตลาดคาดว่าเศรษฐกิจ China, India, Singapore และ Korea จะโตดีกว่าที่ consensus คาด ขณะที่ Thailand และ Philippines จะแย่กว่าคาด ส่งผลกระทบต่อกระแส Fund Flow ชะลอลง

- การเมือง: พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี โดยคาดว่าจะเริ่มอภิปรายได้ในช่วงวันที่ 16-19 ก.พ.

+ วัคซีนไทย: นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีน COVID-19 ได้ โดยขอให้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ถูกต้อง

- EU: AstraZeneneca และ Pfizer เผยว่าไม่สามารถส่งวัคซีนต้าน COVID-19 ให้กับอียูได้ตามเป้าหมาย

- USA: MERCK แจ้งยกเลิกการทดสอบวัคซีนของบริษัท 2 ชนิด หลังไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพป้องกันได้ตามเกณฑ์

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KBANK BDMS MTC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SCGP MTC RBF

Derivatives: แนะดักเปิด Short S50H21 เมื่อดีดตัว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)