ไทยปรับแผน'วัคซีนโควิด-19" หลังซิโนแวคยังรอขึ้นทะเบียนในจีน

ไทยปรับแผน'วัคซีนโควิด-19" หลังซิโนแวคยังรอขึ้นทะเบียนในจีน

ไทยต้องปรับแผนวัคซีนโควิด-19 หลังซิโนแวคยังรอขึ้นทะเบียนในจีน เจรจาแอสตราฯ จัดส่งล็อตสำเร็จรูปผลิตในต่างประเทศให้ก่อนรอบแรก5 หมื่นโดส เริ่มฉีดในไทยกลุ่มแรกก.พ.นี้ "อนุทิน"คนแรก ต่อด้วยบุคลากรการแพทย์-อสม.

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังไปร่วมสังเกตการณ์การแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยระบุถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพ ที่มา และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่า แอสตราเซเนก้ายืนยันมาแล้วว่าจะจัดส่งเป็นวัคซีนสำเร็จรูปล็อตที่ผลิตในต่างประเทศมาให้ประเทศไทยก่อน 1.5. แสนโดส แต่มารอบแรกก่อน 50,000 โดส จะเข้ามาต้นเดือน ก.พ.นี้ที่เหลือทยอยมาในเดือนมี.ค. และ เม.ย.นี้

เมื่อถามว่าล็อตที่จะนำเข้ามารวมอยู่ใน 26 ล้านโดสที่ผลิตในประเทศไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รวมกัน ขอให้แยกอีก 150,000 โดส เพราะเราขอไป 200,000 แสนโดส เราซื้อเหมือนปกติ เมื่อถามย้ำว่าแล้วอยู่ในจำนวน 35 ล้านโดสหลังที่ได้อนุมัติงบประมาณขอซื้อเพิ่มหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า 200,000 โดส เทียบกับ 26 ล้านโดส มันไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่ เมื่อบวกไปอีก 35 ล้านโดส ก็ยังไม่พอ เพราะครอบคลุมแค่ 30 ล้านคน แต่เราต้องการฉีดให้ครอบคลุมประชากรถึง 40-50 ล้านคน ตรงนี้จึงไม่มีนัยยะสำคัญอะไร ราคาที่ซื้อจากแอสตราฯเท่าเดิม ตามสัญญาที่ซื้อ 26 ล้านโดส คือ 5 เหรียญสหรัฐ

0 อนุทินฉีดเข็มแรก
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยไม่เคยเอาอะไรที่ไม่ดี กระทรวงสาธารณสุขไม่มีวันเอาอะไรที่เป็นอันตรายหรือไม่เป็นประโยชน์มาให้กับประชาชน และตนจะเป็นคนฉีดคนแรก โดยมี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาสถานการณ์โควิด-19 เป็นผู้ฉีดให้

0ซิโนแวคยังรอขึ้นทะเบียนในจีน
" สิ่งที่เรานำเข้ามาเราต้องมั่นใจ กว่าจะผ่านมาถึงแขนเราได้นั้นผ่านกระบวนการศึกษาวิจัยมา การเอาเข้ามาฉีดให้ประชาชน แล้วเราจะไม่กล้าฉีดได้อย่างไร ล่าสุดวัคซีน ตัวที่เข้ามาตัวแรก ก็จะเป็นของแอสตราเซเนกา เพราะซิโนแวคยังรอการขึ้นทะเบียนในประเทศจีน ดั้งนั้นหากจะมีการฉีดเข็มแรกในประเทศไทย แนวโน้มน่าจะเป็น แอสตราเซเนกา ซึ่งก็ดีเพราะเป็นยี่ห้อเดียวกัน สูตรเดียวกันกับที่กำลังผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์"นายอนุทินกล่าว

0 ฉีดกลุ่มบุคลากรฯ-อสม.ก่อน

ด้านนพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 กล่าวถึงความคืบหน้าการได้วัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประเทศไทย ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ล็อตแรกจำนวน 50,000 โดสมายังประเทศไทยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.2564 จะให้กับบุคลากรสาธารณสุขที่เป็นกลุ่มปฏิบัติงานในการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 รวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)

“โดยการจัดส่งวัคซีนนั้นจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าพื้นที่ไหน ซึ่งอาจไม่ใช่ 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างเดียว เพราะพื้นที่มีเปลี่ยนแปลง แต่ก็จะเน้นไปยังกลุ่มที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีวัคซีนจากซิโนแวคจากจีนที่จะเข้ามาอีก 2 แสนโดสในช่วงกุมภาพันธ์เช่นกัน” นพ.โสภณ กล่าว

ถามว่าหากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นกลุ่มด่านหน้าโควิดปฏิเสธรับวัคซีนโควิดได้หรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ได้ เพราะการให้วัคซีนครั้งนี้ไม่ได้บังคับ เป็นไปโดยความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม จะมีการสอบถามก่อนในแต่ละพื้นที่ โดยเมื่อวัคซีนมาก็จะให้ดำเนินการผ่านโรงพยาบาลในจังหวัดนั้นๆ

เมื่อถามต่ออีกว่า จากการสอบถามเบื้องต้นบุคลากรทางการแพทย์มีความต้องการฉีดวัคซีนโควิดจากแอสตราเซเนกา หรือซิโนแวค นพ.โสภณ กล่าวว่า พอกัน แต่หากเป็นแพทย์อาวุโสอาจต้องการฉีดวัคซีนจากซิโนแวคมากกว่า เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีการผลิตแบบเก่าจากเชื้อตาย แต่บางส่วนก็ต้องการฉีดวัคซีนจากแอสราเซเนกา เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีทันสมัยกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ประสิทธิภาพการทดลองการใช้วัคซีนโควิดในต่างประเทศ ทั้ง 2 ตัวก็ไม่แตกต่างกันมาก ส่วนผลข้างเคียงเรามีคณะกรรมการคอยติดตามเรื่องนี้เช่นกัน อย่าง ณ วันฉีดก็จะมีการสอบถามว่า เคยมีประวัติแพ้หรือไม่ มีอาการอย่างไร ก็จะไม่ให้ฉีดอยู่แล้ว ซึ่งเราก็มีการกำหนดกลุ่มที่ยกเว้นการฉีดวัคซีนโควิด อย่างอายุน้อยกว่า 18 ปี หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากการทดลองฉีดในต่างประเทศไม่ได้ทดลองในกลุ่มนี้


“ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่วัคซีนโควิด-19 จะมาเร็วขึ้น อย่างเดิมเจรจาว่า น่าจะได้ช่วงพ.ค. แต่ล่าสุดมาเร็วขึ้น"นพ.โสภณกล่าว

0 พร้อมตรวจสอบคุณภาพวัคซีน

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สถาบันชีววัตถุ ในฐานะเป็นห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพวัคซีนที่จะนำมาใช้ในประเทศ จึงได้เตรียมความพร้อมในการตรวจรับรองคุณภาพวัคซีน COVID-19 ในรูปแบบต่างๆ ที่มีการพัฒนาขึ้น โดยขณะนี้สามารถตรวจวิเคราะห์วัคซีนรูปแบบเชื้อตาย (Inactivated) รูปแบบ Adenoviral vector และรูปแบบ DNA หรือ mRNA เพื่อประกอบการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยกระบวนการทดสอบดังกล่าว จะเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้มีวัคซีนทันใช้