KKP จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

KKP จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

ผลประกอบการ 4Q63 & 2563: นำรายได้พิเศษมาตั้งสำรองพิเศษ

Event

กำไรสุทธิของ KKP ใน 4Q63 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบา (-18% QoQ และ -34% YoY) ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา และ consensus ในขณะที่กำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท (-14.5%) ถึงแม้ว่าผลประกอบการใน 4Q63 จะเป็นไปตามคาด แต่มีหลายรายการต่างจากที่คาดไว้ โดยบริษัทมี
กำไรจากการลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมสูงเกินคาด ในขณะที่ผลขาดทุนการขายรถยึดที่ดีกว่า และนำรายได้ส่วนเกินมาใช้ตั้งสำรองก้อนใหญ่

lmpact

มีกำไรจากรายการที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน

ตลาดทุน และตลาดพันธบัตรที่วิ่งแรงทำให้บริษัทมีกำไรจากการลงทุน, ค่าธรรมเนียมในการบริหารสินทรัพย์, และค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สูงเกินคาด ทั้งนี้ บริษัทบันทึกกำไรจากการลงทุนประมาณ 320 ล้านบาทใน 4Q63 โดยมีกำไรที่ยังไม่รับรู้ในพอร์ตการลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท

มีผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง

ผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมาเพิ่มขึ้นเป็น 212 ล้านบาท (จากประมาณ 120 ล้านบาทใน 3Q63) แต่ก็ยังต่ำกว่าผลขาดทุนในช่วงปี 2562-1H63 กว่า 2 เท่า ในขณะเดียวกัน กำไรจากการบริหารหนี้เสียลดลงเหลือ 72 ล้านบาท จาก 254 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า

NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่นำรายได้พิเศษมาตั้งสำรองพิเศษ

หลังสิ้นสุดโครงการผ่อนผันหนี้ ธนาคารเผยว่าลูกหนี้มากกว่า 75% ออกจากโครงการและกลับมาชำระหนี้ตามปกติแล้ว ในขณะที่มีประมาณ 25% (ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจ) ที่ยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม และต้องปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระใหม่ แต่เนื่องจากสินเชื่อกลุ่มนี้ไม่ถูกนับเป็น NPL  ดังนั้น NPL จึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% QoQ แต่ลดลง 12% YoY ทั้งนี้ เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นสูงมากใน 4Q63 KKP จึงนำมาตั้งสำรองพิเศษในรูปของ การตั้งส่วนเพิ่มจากการบริหารจัดการ (Management Overlay) ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการกันสำรองใน 4Q63 จึงเพิ่มขึ้นเท่าตัว QoQ เป็น 2.1 พันล้านบาท (รวมสำรอง management overlay 932 ล้านบาท) ทำให้สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเป็น >160% (จาก 150% ในไตรมาสก่อนหน้า

Valuation & Action

KKP ได้อานิสงส์เต็ม ๆ จากการที่ตลาดทุนวิ่งขึ้นแรงเพราะรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนคิดเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 40% ของกำไรสุทธิใน 4Q63 ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดทุนยังมีแนวโน้มขึ้นต่อ และธุรกิจ IB ก็ฟื้นตัวขึ้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ KKP จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน 1Q64 ดังนั้น เรา
จึงเลือก KKP เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคาร

Risks

non-NII ลดลง และสินเชื่อชะลอตัว