‘อมาโด้’ บุกหนักทีวีโฮมช้อปปิ้ง ชู ‘จีพี’ ต่ำ เขย่าคู่แข่ง

‘อมาโด้’ บุกหนักทีวีโฮมช้อปปิ้ง ชู ‘จีพี’ ต่ำ เขย่าคู่แข่ง

ท่ามกลางวิกฤติโควิด การขับเคลื่อนธุรกิจของ “อมาโด้”  ยืนหนึ่งเติบโตเหนือตลาดที่ซบเซา! พร้อมประกาศเดินหน้าขยาย “ธุรกิจใหม่” ต่อจิ๊กซอว์เพิ่มมูลค่าให้กับ อมาโด้ กรุ๊ป 

นับเป็นสตาร์ทอัพในยุคแรกๆ สำหรับ "แบรนด์อมาโด้" แจ้งเกิดเมื่อ 7 ปีก่อนบนเส้นทางธุรกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทาย! และไม่ได้ราบรื่นนัก โดยเฉพาะวิกฤติใหญ่ในห้วงปี 2563 ที่ผ่านมา สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงลามไปทุกหย่อมหญ้าทั้งประเทศไทยและทั่วโลก  ขณะที่ อมาโด้ กลับยืนหนึ่งเติบโตเหนือตลาดที่ซบเซา! พร้อมประกาศเดินหน้าขยาย ธุรกิจใหม่” ต่อจิ๊กซอว์เพิ่มมูลค่าให้กับอมาโด้ กรุ๊ป 

ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (Amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กล่าวว่า ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตสูง 

161097516797

อมาโด้วาง 3 กลยุทธ์หลักในการเคลื่อนธุรกิจ กลยุทธ์แรก ผลักดันอมาโด้ก้าวสู่แบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ภายใต้ Brand Promise ที่ว่า  “We Live For Your Health” ให้ตลาดและผู้บริโภคจดจำ อมาโด้ คือ เกราะป้องกันสุขภาพของคนไทย! โดยจะมีการรีแบรนด์ และรีแพ็คเกจใหม่ทั้งหมด กลยุทธ์ที่สอง เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบรับดีมานด์ตลาด ซึ่งมีทีมวิจัยและพัฒนา(Research & Development) ในการพัฒนาสูตรใหม่ๆ พร้อมแผนเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ทุกไตรมาส เรือธงตัวแรกของปีนี้เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรไบโอติก เจาะตลาดสุขภาพ 

กลยุทธ์ที่สาม เดินหน้าสร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) ด้วยความสามารถในการมองหาช่องทางขาย ทรงประสิทธิภาพ ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีศักยภาพ ปัจจุบันมีร้านอมาโด้ 44 สาขา จะเพิ่มเป็น 100 สาขา และเพิ่มตัวแทนขายอีก 25 ราย รวมกับตัวแทนปัจจุบันเป็น 50 ราย

บิ๊กสเต็ป! ของ อมาโด้ เปิดเกมรุก ทีวีโฮมช้อปปิ้ง ในชื่อ อมาโด้ ช้อปปิ้ง (Amado Shopping) อย่างเต็มตัว หลังจับตลาดนี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่แบบสะเทือนวงการ!

อมาโด้ สร้างมิติใหม่ให้กับวงการด้วยการนำจุดแข็งด้านความสามารถ คัดสรรช่วงเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำในประเทศ มาผนวกเข้ากับ Data Driven Marketing เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตรงกลุ่ม เป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นถึง 2 เท่า

ธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า โมเดลธุรกิจใหม่นี้เกิดขึ้นจากการมองเห็นโอกาส!  หลังจากเดินหน้าทำการตลาดผ่านช่องทาง “เทเลเซลล์” ด้วยการนำสินค้าไปโปรโมทขายตามรายการต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำ นับเป็นการต่อยอดช่องทางขายสู่ธุรกิจใหม่และนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าธุรกิจ 

ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง มูลค่า 18,000 ล้านบาท ยังมีมูลค่าการเติบโตน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะยุคโควิด-19 พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปมุ่งสู่โลกดิจิทัล

อมาโด้มาแบบไม่ธรรมดา! อมาโด้ ช้อปปิ้ง จะไม่ได้เป็นเพียงช่องทางสำหรับจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดรับ พันธมิตร” ที่ต้องการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายผ่านอมาโด้ ช้อปปิ้ง  พร้อมจูงใจด้วยการเก็บค่า จีพี ต่ำเพียง 25% เท่านั้นไม่ว่าจะสินค้าจากแบรนด์ใหญ่หรือเล็ก เทียบอัตราเฉลี่ยจีพีในตลาดอยู่ที่ 40-65% เป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการสร้างบาลานซ์ธุรกิจ

จุดแข็งของ อมาโด้ ช้อปปิ้ง มีทีมเทเลเซลล์รับสายพร้อมปิดการขาย 200 คน เพิ่มขึ้นจากเดิม 100 คน มีบริการส่งสินค้ารวดเร็วภายใต้การบริการของอมาโด้เอง ใน 48 ชั่วโมง มีคลังสินค้าขนาดใหญ่ 3 ไร่ครึ่ง พร้อมลงทุนอีก 100 ล้านบาท จะขยายเป็น 6 ไร่ เพื่อบริหารสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ มีช่วงเวลาการออกอากาศ (เรตติ้ง) ที่ดีและมีประสิทธิภาพของ แต่ละช่องรวมมากกว่า 3,000 ออนแอร์แบบ Tie-in ประการสำคัญ ฐานข้อมูลลูกค้า (Data Driven) ช่วยให้จัดโปรโมชั่นและสินค้าแบบเจาะลึกตรงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่อง แต่ละรายการ สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และสามารถตรวจสอบยอดขาย คำนวณ ROI ได้แบบ Real-Time ในปีนี้อมาโด้ตั้งเป้าหมายรายได้จาก อมาโด้ ช้อปปิ้ง ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ก้าวสู่ “ท็อป 10” ทีวีโฮมช้อปปิ้งในประเทศทันที

การต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มจากจุดแข็ง เป็นจุดขายใหม่แล้ว ข้อมูลลูกค้ายังเป็น “Big Data” ขุมทรัพย์สำคัญของธุรกิจชั้นดี ในการทำ Data Driven Marketing สู่การเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่องในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย

เกมรุกตลาดของอมาโด้ มาพร้อมเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้อมาโด้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กรุยทางสู่เบอร์ 1 ภายใน 3 ปีข้างหน้า และอีกบิ๊กสเต็ป นั่นคือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอในปลายปีนี้หรือต้นปี 2565 

สำหรับปี ่2563 อมาโด้ มียอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโตถึง 231.14% คิดเป็นมูลค่า 1,600 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้ 694 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของตลาดวิตามินและอาหารเสริม ที่มีมูลค่า 22,621 ล้านบาท เติบตัว 8.5%

รายได้ของอมาโด้ มาจากช่องทางขายดีลเลอร์ 49% เทเลเซลล์ 29% ออนไลน์ 16.8% ร้านค้าอมาโด้ 3% โมเดิร์นเทรด 2.2% มีฐานลูกค้าผู้หญิง 87% ผู้ชาย 13% นี่คืออีกโอกาสใหญ่แห่งอนาคต! ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 51% สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของอมาโด้เป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงที่พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพแล