ทบ.โชว์ผลงาน 'วันกองทัพบก'เยียวยา 'กราดยิงโคราช' ครบ 'ปฏิรูปกองทัพ' ย่ำอยู่กับที่

ทบ.โชว์ผลงาน 'วันกองทัพบก'เยียวยา 'กราดยิงโคราช' ครบ 'ปฏิรูปกองทัพ' ย่ำอยู่กับที่

ทบ.ตั้งโต๊ะแถลงผลงานรอบ 1 ปี ใน 'วันกองทัพบก' เผยครบรอบ 'กราดยิงโคราช'เยียวยาครบถ้วน ส่วนปฏิรูปกองทัพ-แปรรูปเงินนอกงบฯ ยังย่ำอยู่ที่ โยนคณะทำงาน ศึกษา-ประเมิน ชูผลงาน 'จับยาเสพติด' แจง ยิบตัวเลขสกัดกั้นลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย

18 ม.ค.2564 พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก พร้อมทีมงานโฆษกได้แถลงผลงานกองทัพบกในรอบ 1 ปี เช่นสรุปผลการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด การช่วยเหลือผู้ยากไร้ และ นโยบายในเรื่องทหารกองประจำการ ที่สำคัญคือ มาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่ชายแดนเนื่องเพราะเกี่ยวโยงกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

โดย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า กองทัพบกเพิ่มความถี่ ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตลอด 24 ชม. ส่งเครื่องกีดขวาง ลวดหนาม เพิ่มเติมให้ กกล.ชายแดน นำไปวางปิดกั้นช่องทางที่สามารถใช้เป็นเส้นทางลักลอบเข้ามา เช่น กกล.นเรศวร จังหวัดตาก วางเครื่องกีดขวางใน 5 พื้นที่รวมระยะ 2,700 เมตร และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 6 พื้นที่ ระยะ 1,500 เมตร รวมถึงใช้เครื่องมือเฝ้าตรวจ และยุทโธปกรณ์พิเศษ เช่น กล้อง CCTV, โดรน ลาดตระเวนทางอากาศ ,กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว,ติดต้ังเครื่องให้แสงสว่าง โซลาเซล ในช่องทางสำคัญ อีกทั้งจัดชุดลาดตระเวน เฝ้าตรวจชายแดนทางบกและทางน้ำ เป็นต้น

นอกจากนั้น ทบ. ได้เสริมกำลังเฝ้าตรวจชายแดนเพิ่มเติมอีก 5 กองร้อย ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 จนปัจจุบัน ให้กับกองกำลังชายแดน ได้แก่ ผาเมือง นเรศวร สุรสีห์ เทพสตรี บูรพา เสริมการเฝ้าตรวจและสกัดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านการคัดกรองโควิด-19 ทั้งนี้ในช่วงที่ประเทศไทยเปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ช่วง15 มค.-13 กพ.64 นี้ อาจจะเกิดความพยายามในการลักลอบข้ามแดนเพื่อมาลงทะเบียนจำนวนมาก กองกำลังชายแดนก็จะเข้มงวด ตรวจสอบ ในพื้นที่ชายแดนและถัดมา ป้องกันไม่ให้มีแรงงานแอบลักลอบเข้าประเทศ โดยได้ดำเนินการควบคู่ไปทั้งเรื่องการสกัดกั้น และการติดตามตรวจสอบดำเนินการตามกฏหมายต่อกลุ่มขบวนการนำพาคนต่างด้าวเข้าเมือง

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ มกราคม -ธันวาคม 2563 การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายสามารถจับกุมได้ 7,390 คน แยกเป็นกัมพูชา 2,723 คน ลาว 197 คน เมียนม่า 4,352 คน ชาติอื่นๆ9 คน และผู้นำพาชาวไทย 109 คน ซึ่งได้ถูกส่งไปดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต้นทาง ส่วนสถิติในห้วงเดือน มกราคม-ธันวาคม2563 กองทัพบกตรวจพบคนไทยเดินทางเข้าประเทศผ่านแนวชายแดนในห้วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 32,766 คน แยกเป็น ลงทะเบียนขอเข้าราชอาณาจักรผ่านช่องทางการต่างประเทศ 28,897 คน และไม่ลงทะเบียน 3,869 คน แยกเป็นพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 จำนวน 1,885 คน กองทัพภาคที่สอง 2,838 คน กองทัพภาคที่สาม 2,330 คน และกองทัพภาคที่สี่ 25,713 คน

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า ภารกิจที่ ผบ.ทบ.เน้นย้ำคือการดูแลประชาชน โดยกำลังพลทุกภูมิภาคต่างๆทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย เช่นหน่วยพิทักษ์พื้นที่ทั้ง 35 มณฑลทหารบก เป็นกำลังที่เข้าหาประชาชนได้ทันที เจตนารมณ์ของ ผบ.ทบ.มอบให้กำลังพลยึดถือคือ พิทักษ์ราชันย์ ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ให้เกิดความมั่นคงต่อประเทศชาติและให้ประชาชนผาสุก ปลอดภัย และมั่นคงในการเทิดทูนสถานพระกษัตริย์อย่างสูงสุด กองทัพบกจะยึดมั่น พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนตลอดไป

เมื่อถามว่า ได้มีการติดตามขยายผลดำเนินการ190 คนไทยที่มีการปล่อยให้คนเดินทางเข้าไปเล่นการพนันในฝั่งเมียนมาร์ พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า กองทัพบกมีหน้าที่ป้องกันชายแดน จะมีกระบวนการในการทำงานทุกวิถีทางในการดูแลความมั่นคง ป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องลุกล้ำอธิปไตยของชาติไทยในทุกเรื่องและดูแลชายแดนให้ปลอดภัย

สำหรับสถานการณ์ที่ผ่านมาการที่มีบุคคลลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทบ.ดูแลชายแดนและพื้นที่ที่ลึกเข้ามาในส่วนที่เป็นอำเภอติดชายแดน สิ่งที่เกิดขึ้นเราพยายามใช้กลไกในการทำงานอย่างเต็มขีดความสามารถทั้งทบ.เอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติงานให้เต็มขีดความสามารถสูงสุด แต่พื้นที่ที่ยาวไกลนั้นจากการที่เราจับกุมได้ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่ลึกเข้ามา แสดงว่าอาจจะมีการปฏิบัติเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบเข้ามาได้ แต่จากมาตรการที่เข้มขึ้นนั้น การจับแรงงานต่างด้าวที่หลุดรอดเข้ามาน้อยลง นอกจากนั้นได้มีการประสานกับ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น หรือ ทีบีซี ก็จะพูดคุยเรื่องชายแดน และการไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศ ก็จะประสานในเรื่องในภาพรวม

พล.ต.สันติพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการทวงถามความคืบหน้าในการปฏิรูปกองทัพหลังครบเหตุการณ์กราดยิงโคราช ว่า ทบ.มีคณะทำงานด้านต่างๆ ซึ่งผบ.ทบ.ได้มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษา จึงอยู่ระหว่างดำเนินการ และได้เยียวยา เรียบร้อยหมดแล้วเมื่อปีที่แล้ว ทุกคนได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ในส่วนของ ทบ.ก็ได้รับการดูแลจากกองทัพอย่างชัดเจน รวมถึงส่วนงานอื่นๆ ด้วย สำหรับสวัสดิการที่พักอาศัยซึ่งเป็นปมเหตุสำคัญในวันนั้น พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า เรามีคณะทำงาน ดูแลในภาพรวมอยู่แล้ว เนื่องจากว่า ทบ.มีงานหลายด้านและงานเยอะมาก งานใดที่เกี่ยวข้องกับ กรมฝ่ายเสนาธิการบางเรื่องเกี่ยวกับ สิทธิกำลังพล หรือบ้านพัก ทบ.ก็ฌจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเฉพาะเรื่องและดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อนำเรียนผู้บังคับบัญชา เพื่อออกมาเป็นแนวทางว่าจะเป็นอย่างไร

ส่วนนโยบายการแปรรูปธุรกิจเงินนอกงบประมาณของกองทัพบกนอกจากกรณีของสวนสนประดิพัทธ์ โฆษกกองทัพบกกว่าว่า ได้ดำเนินการไปแล้วตามขั้นตอน ซึ่งได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้นานนัก ต้องดูว่า ผลประกอบการ 6 เดือน ถึง 1 ปีผลประกอบการเป็นอย่างไร หลังจากที่มีการเซ็นต์เอ็มโอยูไปแล้ว ต้องรอดูอีกเล็กน้อย และตอนนี้อาจจะมีข้อจำกัดในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้หลายเรื่องชะงักลง ถามย้ำว่า ผ่านมา 1 ปี มีสิ่งใดที่เป็นรูปธรรมในการปฏิรูปกองทัพบ้างหรือไม่ พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะทำงานที่ทำตามขั้นตอนอยู่