จับตา ‘คลาวด์ อีโคโนมี’ พลิกเกมโลกการเงิน

วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลแทรกซึมอยู่ในแทบทุกมิติของการใช้ชีวิต สำหรับภาคธุรกิจคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มทางรอด สร้างแต้มต่อในการแข่งขัน ส่วนว่าใครจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่วิสัยทัศน์ การวางกลยุทธ์ และการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้มากที่สุด...

สุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการเงิน บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดมุมมองว่า แค่มองไปรอบตัว คนส่วนใหญ่คงพูดได้เต็มปากว่า เทคโนโลยี ได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและทำงานแล้วจริงๆ แต่ขณะเดียวกัน คนทำงานในบางสายก็อาจไม่ได้รู้สึกว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นใหญ่โตอะไรนัก และงานด้านการเงินก็เป็นหนึ่งในสายงานที่เข้าข่ายนี้

ทั้งนี้ เนื่องจากหลายคนคงรู้สึกว่างานที่ทำอยู่เปลี่ยนไปแค่เครื่องมือที่ใช้งาน แต่ยังคงมีจุดประสงค์และแนวทางเหมือนเดิม ซึ่งก็คือการสร้างระบบ จัดระเบียบการเงินของบริษัทให้สนับสนุนการทำงานตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

อย่างไรก็ดี ถึงหัวใจสำคัญนี้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ที่จริงแล้วปัจจัยที่คนสายการเงินต้องพิจารณาได้เปลี่ยนไปอยู่ไม่น้อย เพราะเทคโนโลยีอย่างคลาวด์ได้เข้ามาเพิ่มมิติใหม่ๆ ในการบริหารจัดการด้านการเงิน พร้อมเปิดประตูให้เงินลงทุนของบริษัทสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้นอย่างมหาศาล

จาก ‘CAPEX’ สู่ ‘OPEX’

เธอกล่าวว่า คลาวด์เข้ามาพลิกกระดานให้บางองค์กรสามารถเปลี่ยนลำดับความสำคัญในการลงทุน ลดเงินลงทุนก้อนใหญ่ พร้อมเพิ่มความคล่องตัวและการเติบโต จากเดิมที่จำเป็นต้องทุ่มทุนไปกับสินทรัพย์ถาวรขององค์กร หรือ CAPEX เพื่อให้บริษัทมีรากฐานรองรับการเติบโต กลายมาเป็นการเน้น OPEX หรือเม็ดเงินที่หมุนเวียนให้เกิดผลในการทำงานจริงแบบวันต่อวันแทน จนเกิดเป็นมุมมองใหม่ทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่เรียกได้ว่า “คลาวด์ อีโคโนมี (Cloud Economy)” หรือ “เศรษฐกิจแบบคลาวด์”

“หากมองจากในเชิงการเงินล้วน ๆ การเปลี่ยนให้องค์กรหันมาใช้คลาวด์จะลดภาระในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีไปอย่างมหาศาล เหลือเพียงแค่ค่าใช้บริการที่ชำระตามปริมาณการใช้งานจริง ซึ่งนอกจากมูลค่าตัวเงินที่ไหลออกจากองค์กรจะลดลงอย่างมากแล้ว ยังตัดประเด็นเรื่องค่าเสื่อมราคาออกไปให้พ้นสารบบ ทั้งยังปรับเพิ่ม-ลดค่าใช้จ่ายได้ตามสถานการณ์และความจำเป็น”