เช็คลิสต์ ใครได้ฉีด ‘วัคซีนโควิด’ เป็นกลุ่มแรก

เช็คลิสต์ ใครได้ฉีด ‘วัคซีนโควิด’ เป็นกลุ่มแรก

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เผยแผนจัดกลุ่มเป้าหมายรับการฉีด "วัคซีนโควิด" เป็นกลุ่มแรกโดยแบ่งผู้ที่จะได้รับวัคซีนเป็น 4 กลุ่ม พร้อมเริ่มฉีดได้ในเดือน ก.พ. 2564

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับความพร้อมเรื่อง "วัคซีนโควิด"

รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเตรียมความพร้อมการให้บริการ "วัคซีนโควิด-19" ในประเทศไทย ด้านการบริหารจัดการวัคซีน การสร้างการรับรู้ การให้บริการวัคซีน การกำกับติดตามผลการดำเนินงาน และการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต การรักษาความมั่นคงของระบบสาธารณสุขและสังคม ลดการแพร่กระจายเชื้อ ความเสี่ยงผู้สัมผัส โดยวัคซีนที่จัดหามานั้นได้มาตรฐาน คุณภาพ และได้รับการขึ้นทะเบียนกับ อย.เรียบร้อย

161052823049

โดยในช่วงแรกที่ "วัคซีนโควิด" จำกัดเป้าหมายคือ การลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต และปกป้องระบบสุขภาพประเทศ กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับอันดับต้น ได้แก่ 

1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน 

2. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน 

3. ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 

4. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 เช่น อสม. อสส. ทหาร ตำรวจ ที่จะต้องคัดกรองผู้ที่เข้ามาจากต่างประเทศและในพื้นที่ที่มีการระบาด เริ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

*หมายเหตุ : โดยจะฉีดคนละ 2 เข็ม แต่ละเข็มห่างกัน 1 เดือน

นอกจากนี้ได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของประเทศไทย

161053850234

161052826371

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำหนดการรณรงค์ให้บริการวัคซีน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - พฤศจิกายน 2564 โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งสื่อสารประชาชนให้มีความรู้ทั้งผลดีและข้อความระวัง และประสานโรงพยาบาลรัฐทุกสังกัดและโรงพยาบาลเอกชนร่วมให้บริการ

อีกทั้งได้ให้โรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง สำรวจกลุ่มเป้าหมายล่วงหน้า เตรียมจัดบริการรองรับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก จัดทีมบริการเคลื่อนที่ และเตรียมความพร้อมเรื่องระบบลูกโซ่ความเย็น โดยจะมีระบบการเฝ้าระวังอาการภายหลังได้รับวัคซีน และติดตามประเมินผลการให้บริการเป็นรายเขต จังหวัด อำเภอ และพื้นที่