กิมเอ็ง ชู ‘AEONTS’ เหนือ ‘KTC’ แนะ’ซื้อ’ขยับเป้า 260 บาท

กิมเอ็ง ชู ‘AEONTS’ เหนือ ‘KTC’ แนะ’ซื้อ’ขยับเป้า 260 บาท

เมย์แบงก์กิมเอ็ง แนะซื้อ "AEONTS" พร้อมขยับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 260 บาท ชี้เหนือกว่า "KTC" เหตุกำไรโต ควบคุมต้นทุนได้ดี และพีอีเรโชยังต่ำแค่ 14 เท่า

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ”หุ้น บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS พร้อมปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 260 บาท

เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า ชอบ AEONTS มากกว่า บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  KTC เราคาดว่า AEONTS จะทยอยกลับรายการค่าเผื่อสำรองหนี้สูญ (LLR) เนื่องจากความเสี่ยงด้านเครดิตยังไม่ปรากฏมากเท่าที่คาดไว้ ซึ่งจะหนุนให้ EPS เติบโต 17% YoY ในปี 2564 จึงคงคำแนะนำ ซื้อ โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 260 บาท (P/BV ปี 64 ที่ 3.4 เท่า, PER 16 เท่า และ ROE 22%) จาก 200 บาท หลังเพิ่มคาดการณ์งบปี 2563-2565 (สิ้น ก.พ.2564-2565) ขึ้น 7-15% เพื่อสะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีและลดต้นทุนสินเชื่อ

“เราชอบ AEONTS มากกว่า KTC โดยอิออนซื้อขายที่ PER 14 เท่า ขณะที่ KTC ซื้อขายที่ PER 35 เท่าในปี 2564 ความเสี่ยงที่สำคัญคือการเสื่อมคุณภาพของสินทรัพย์และการเติบโตของสินเชื่อช้ากว่าที่คาดไว้”

งบไตรมาส 3Q63 ดีกว่าที่เราคาด 9% จากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง

AEONTS รายงานผลประกอบการไตรมาส 3Q63 ที่ 1 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2% YoY และ 4% QoQ) เนื่องจากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงและกำไรจากการขาย NPLs สินเชื่อขยายตัว 0.6% QoQ (ทรงตัว YoY) จากความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล

ขณะที่ NIM ลดลง 150bps QoQ เป็น 17.6% เนื่องจากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 15% YoY ส่วน Non-NII เติบโต 3% YoY และ 40% QoQ หนุนโดยกำไรจากการขาย NPLs 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา OPEX ลดลง 13% YoY จากการควบคุมต้นทุนที่ดี

NPL เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีสัญญาณที่น่ากังวล AEONTS ตั้งสำรอง 1.35 พันล้านบาท ลดลง 25% YoY และ 15% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 12% ต้นทุนสินเชื่อลดลงเหลือ 6.1% จาก 7.2% ในไตรมาส 2Q63 โดยยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อค้างชำระ gross NPL เพิ่มขึ้น 17% QoQ เป็น 4 พันล้านบาท ขณะที่ NPL Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 4.5% จาก 3.9% ใน 2Q63 ส่งผลให้ NPL Coverage ลดลง 296% จาก 351% ใน 2Q63

คาดต้นทุนสินเชื่อลดลงในปี 64

AEONTS ยังคงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่การติดตามหนี้และการลดต้นทุนเพื่อชดเชยแนวโน้มรายได้ระยะสั้นที่อ่อนแอจากอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บที่ลดลง เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่า AEONTS จะกลับรายการ LLR บางส่วนเนื่องจากอัตราส่วน LLR ต่อสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูงที่ 13.4% ในไตรมาส 3Q63 ด้วยแนวโน้มการตั้งสำรองมากเกินไปและการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลงมาอยู่ที่ 7.05% ในปี 64 เทียบกับ 7.7% ในปี 63