‘ลุมพินี’ เกริกไกร วิกทหารในอุปถัมภ์

การแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ มีต้นตอมาจากแรงงานเถื่อน(สมุทรสาคร) และบ่อนพนัน(ระยอง) ใครก็รู้ว่าส่วยแรงงาน หรือส่วยบ่อนพนันเป็นปลายเหตุ สิ่งที่ฝังรากลึกในระบบราชการไทย นั่นก็คือระบบอุปถัมภ์ และเป็นต้นเหตุของปัญหาคอรัปชั่น

มีกรณีศึกษาเรื่องระบบอุปถัมภ์ในกองทัพ ถ้ายังจำกันได้ ศึกลุมพินีแชมเปี้ยนเกริกไกรซูเปอร์ไฟท์ วันศุกร์ที่6 มี.ค.2563 สนามมวยเวทีลุมพินี กลายเป็นคลัสเตอร์ มีการแพร่เชื้อโควิดกระจายไปทั่วประเทศ

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกสมัยนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พร้อมกับมีคำสั่งให้พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ในฐานะนายสนามมวยลุมพินี มาช่วยราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก

โควิดซาไป ผู้คนก็ลืมเรื่อง พล.ต.ราชิต และสนามมวยลุมพินี หลังโควิดระบาดรอบใหม่นักการเมืองฝ่ายค้านก็พูดถึง พล.ต.ราชิต อีกครั้ง

เข้าไปดูเวบไซต์กรมสวัสดิการทหารบก ช่วงต้นปี 2564 ก็มีข่าวกิจกรรมของ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก (จก.สก.ทบ.) แสดงว่า พล.ต.ราชิต กลับมานั่งในตำแหน่งเดิมแบบเงียบๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว

หลังสนามมวยลุมพินี ปิดชั่วคราวมา 7-8 เดือน เพราะพิษโควิด ช่วงเดือน พ.ย.2563สื่อมวลชนสายมวยต่างรายงานข่าว พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานอำนวยการสนามมวยลุมพินี ได้แต่งตั้งคณะผู้บริหารสนามมวยลุมพินีชุดใหม่

หน้าตาของผู้บริหาร “วิกทหาร” หรือสนามมวยลุมพินี ประกอบด้วย พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยลุมพินี ,พล.ต.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ รองนายสนามมวยเวทีลุมพินี (1),พ.อ.วสันต์ พึ่งสำเภา รองนายสนามมวยลุมพินี (2) และ พ.อ.กฤษดา จินดาลัทธ รองนายสนามมวยลุมพินี (3)

ทั้ง พ.อ.วสันต์ และ พ.อ.กฤษดา ต่างก็เป็นรองเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และสมัย พล.ต.ราชิต เป็นนายสนามมวย สองคนนี้ก็เป็นรองนายสนามเช่นกัน

ถ้ายังจำได้ หลังเหตุการณ์จ่าคลั่งยิงกราดที่โคราช พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกสมัยนั้นได้จุดพลุ “ปฏิรูปกองทัพ” โดยจะเริ่มจากการจัดระเบียบสวัสดิการในเชิงพาณิชย์

หลังจากนั้น อดีต ผบ.ทบ.ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกระทรวงการคลัง จัดระเบียบสวัสดิการในเชิงพาณิชย์ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เฟสแรก จะมีโรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ และสนามมวย

ระหว่างที่สนามมวยลุมพินียังไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการชกมวยได้ ก็มีข่าว “เอกชน” จะเข้ามาบริหารสนามมวยลุมพินี ตามนโยบายปฏิรูปกองทัพของ “บิ๊กแดง”

ครั้นฤดูการโยกย้ายนายทหารผ่านพ้นไป สนามมวยลุมพินี ยุค “บิ๊กบี้” ก็มี พล.ท.สุชาติ แดงประไพ ผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย และ พล.ต.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ ผู้ชำนาญการกองทัพบก มาเป็นผู้บริหารตัวหลัก

พล.ท.สุชาติ เริ่มชีวิตราชการทหาร ภายในกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ปราจีนบุรี ก่อนจะไปเติบโตที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.)

ช่วงที่ พล.ท.สุชาติ มารับราชการที่กองทัพภาคที่ 1 ก็สนิทสนมกับ พล.อ.ยุวนาฏ สุริยกุล ณ อยุธยา เพื่อนตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถือเป็นสายกิจกรรม สังสรรค์ มีเพื่อนฝูงมากมายหลายวงการ

นอกจากนี้ พล.ท.สุชาติ ยังได้มาทำงานกับ พล.อ.ดุลกฤต รักษ์เผ่า อดีต ผบ.นทพ. ที่เป็นน้องรักของพล.อ.ประวิตร ดูท่าว่าจะรุ่งโรจน์ ขยับขึ้นเป็น ผบ.นทพ. แต่เจอธรรมเนียมปฏิบัติของกองทัพบัญชาการกองทัพไทย ไม่ได้เป็นสายตรงของ ผบ.สส. จึงได้เป็นแค่ผู้ทรงคุณวุฒิฯ

อย่างไรก็ตาม “บิ๊กบี้” ได้เลือก พล.ท.สุชาติ ให้เข้ามาดูแลสนามมวยลุมพินี เป็นเวลา 1 ปี โดยทำงานร่วมกับ พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5

พ้น 1 ปีไปแล้ว สนามมวยลุมพินี คงกลับเข้าสู่วงจรเดิมคือ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เป็นนายสนาม ดูแลหม้อข้าวของกองทัพต่อไป