เยียวยาเกษตรกร อัพเดทข้อมูล ต้องรู้และเตรียมพร้อมอะไรบ้าง

ตรวจสอบ เยียวยาเกษตรกร อัพเดทข้อมูลกรณีเยียวยาโควิด ต้องรู้และเตรียมพร้อมอะไรบ้าง
การแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้าย โควิด 19 ระลอกใหม่ ซึ่งรัฐบาลออกมายืนยันแล้ว "รัฐบาลไม่ถังแตก" เพราะมีงบประมาณหลายแสนล้านบาท รองรับในการช่วยเหลือประชาชนในการเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะ "เกษตรกร" ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบ
จากการเปิดเผยของ อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ว่า หลังจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา เรื่องการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 โดยมอบหมายให้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นในสองเดือนนี้นั้น
ความต่อเนื่องดังกล่าว เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เตรียมความพร้อมในการเยียวยาเกษตรกรเพื่อความรวดเร็วทันทีที่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะเยียวยาอย่างไร
มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะนายทะเบียนตรวจสอบรายชื่อเกษตรกรที่เคยขึ้นทะเบียนในโครงการเยียวยาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกษตรกรประมาณ 8 ล้านราย ได้รับเงินเยียวยารายละ 15,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือน มิ.ย - ส.ค. โดยรัฐมนตรีเกษตรฯ ยังมอบนโยบายให้เกษตรกรรายใหม่และที่ตกหล่นสามารถลงทะเบียนได้ครบถ้วนโดยต้องครอบคลุมไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและทุกขั้นตอนต้องตรวจสอบความถูกต้อง
สำหรับโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ในปี 2563 สศก. ในฐานะนายทะเบียนจัดส่งรายชื่อเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและได้ตรวจสอบแล้ว ให้ ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย เกษตรกรกลุ่มพืช กลุ่มปศุสัตว์ กลุ่มประมง กลุ่มหม่อนไหม กลุ่มชาวไร่อ้อย และกลุ่มชาวไร่ยาสูบ โดย 2 กลุ่มหลังขึ้นทะเบียนกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลังตามลำดับโดยส่งทะเบียนเกษตรกรผ่าน สศก. ก่อนส่งให้ ธกส. โอนตรงให้เกษตรกร
ทั้งนี้ จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ มีบิ๊กดาต้าทำให้มีฐานข้อมูลเกษตรกร พร้อมดำเนินการในทุกภารกิจโดยเฉพาะการเยียวยาเกษตรกรกลางปีที่แล้วสามารถส่งฐานข้อมูลเกษตรกรให้ ธ.ก.ส. ภายใน 5 วันทำการ หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเยียวยาเกษตรกร
การตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือน
เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรเท่านั้น ซึ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ ขึ้นอยู่กับบทบาทและภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ได้ที่ http://farmer.doae.go.th/
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม รวมถึงเกษตรกรรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ หรือเกษตรกรรายใหม่ เพื่อให้สามารถ "ขึ้นทะเบียนเกษตรกร" ได้อย่างถูกต้อง ดังนี้
1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
1.1 ครัวเรือนเกษตรกรผู้ขอขึ้นทะเบียนจะต้องเป็นผู้ประกอบการเกษตร เป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพรองก็ได้
1.2 ครัวเรือนเกษตรกร 1 ครัวเรือน จะมีตัวแทนมาขอขึ้นทะเบียนได้เพียง 1 คน ในการพิจารณาว่าครัวเรือนใดขอขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อนหรือไม่ เจ้าหน้าที่จะต้องชี้แจงรายละเอียดให้เกษตรกร ผู้ขอขึ้นทะเบียนรับทราบ ตามนิยามที่กําหนด
1.3 เกษตรกรผู้ขอขึ้นทะเบียนต้องบรรลุนิติภาวะ และมีสัญชาติไทย กรณีที่เป็นนิติบุคคล จะต้องมีการมอบหมายผู้แทนมาขึ้นทะเบียน
2. สถานที่ขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
2.1 เกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งปรับปรุงได้ที่สํานักงานเกษตรอําเภอทุกแห่ง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมและร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่, อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่าน DOAE Farmbook Application ด้วยโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) ได้ด้วยตนเอง
2.2 เกษตรกรรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ หรือเกษตรกรรายใหม่
สำหรับเกษตรกรรายใหม่ รวมไปถึงเกษตรกรรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ ให้ยื่นเอกสารที่สํานักงานเกษตรอําเภอที่ตั้งแปลงที่ทํากิจกรรมการเกษตรอยู่ หากมี แปลงที่ทํากิจกรรมการเกษตรหลายพื้นที่ หลายอําเภอ ให้ยื่นที่สํานักงานเกษตรอําเภอที่ตั้งแปลงหลัก (อําเภอที่มีจํานวนแปลงมากที่สุด) กรณีที่ใช้คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ต (Tablet) ขึ้นทะเบียนเกษตรกร เจ้าหน้าที่สามารถรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรราย ใหม่ในพื้นที่ พร้อมวาดผังแปลงไปพร้อมๆ กันในคราวเดียวได้ (เฉพาะพื้นที่ที่มี Internet)
3. เอกสารประกอบการขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
3.1 เกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม ใช้บัตรประจําตัวประชาชนตัวจริง
3.2 เกษตรกรรายใหม่ หรือ รายเดิม เพิ่มแปลงใหม่ ใช้บัตรประจําตัวประชาชนตัวจริง พร้อมหลักฐานแสดงสิทธิการถือครองที่ดินตัวจริง หรือสําเนาที่มีการรับรองสําเนาจากผู้ครอบครอง ทั้งนี้ สามารถเรียกหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม
4. การขึ้นทะเบียนปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร สามารถดําเนินการได้ทั้งในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์
5. การขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร สามารถดําเนินการได้ทุกลักษณะการถือครองที่ดิน ได้แก่ ของครัวเรือน เช่า อื่นๆ (ทําฟรี/ที่สาธารณประโยชน์)
6. การมอบอํานาจให้บุคคลอื่นมาดําเนินการแทน
6.1 ครัวเรือนเกษตรกรสามารถมอบอํานาจให้สมาชิกในครัวเรือนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกร เดียวกัน เป็นผู้ขอปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแทนได้ แต่หากเป็นเกษตรกรที่ต้องการขอขึ้นทะเบียนใหม่ต้องแจ้ง ขึ้นทะเบียนเกษตรกรด้วยตนเอง
6.2 นิติบุคคล สามารถมอบอํานาจให้ผู้แทนขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ 7. เจ้าหน้าที่ผู้รับขึ้นทะเบียนจะต้องย้ําให้เกษตรกรทราบว่าต้องแจ้งข้อมูลและกรอกข้อมูลในแบบคําร้องให้สมบูรณ์ ถูกต้อง ครบถ้วนตามความเป็นจริง พร้อมลงลายมือชื่อรับรองข้อมูล ในแบบคําร้องด้วย สําหรับผู้ขอขึ้นทะเบียนใหม่ ต้องมีผู้นําชุมชน (รายละเอียดตามคํานิยาม) ลงลายมือชื่อพร้อมระบุตําแหน่ง เป็นพยานการให้ข้อมูล
...
กรณี เยียวยาเกษตรกร ของ ธ.ก.ส.
กรณี กระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบสิทธิเยียวยาเกษตรกร
รัฐสภา 395เสียง เห็นด้วยให้อำนาจ "ส.ส.ร.200คน" จากเลือกตั้ง ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ลงทะเบียน 'ม.33 เรารักกัน' พุ่ง 7.8 ล้านคน
ฝุ่น ‘PM 2.5’ สาเหตุการตายใน 5 เมืองใหญ่ของโลก